นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) (CNS) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของบริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่า หุ้น NER ได้เสนอขายหุ้นให้กับประชาชน (IPO) จำนวน 600 ล้านหุ้น ในราคาจองซื้อหุ้นละ 2.58 บาท มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายและผู้ร่วมรับประกันการจัดจำหน่าย 7 แห่ง ได้แก่ บล. โกลเบล็ก บล. เคทีบี (ประเทศไทย) บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) บล. ทรีนีตี้ บล. ฟินันเซีย ไซรัส บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) และ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระหว่างวันที่ 29 – 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก และมีการจองซื้อเต็มจำนวนจากนักลงทุนโดยมีการจัดสรรให้แก่นักลงทุนมากกว่า 6,000 ราย เนื่องจากนักลงทุนมีความสนใจและเห็นถึงโอกาสการเติบโตในอนาคต
ปัจจัยที่ทำให้หุ้น NER ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนนั้น เห็นได้จากการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมถึงการโรดโชว์ในต่างประเทศ ซึ่งได้รับการความสนใจเป็นอย่างดี รวมไปถึงบริษัทมีแผนธุรกิจและการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่การกำหนดราคาจองซื้อหุ้น ที่ราคา 2.58 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) เท่ากับ 9.96 เท่า ซึ่งคำนวณกำไรสุทธิจากผลประกอบการของบริษัทในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2561 และเชื่อว่าการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันแรกจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า NER จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)วันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ ในหมวดธุรกิจการเกษตร ซึ่งเชื่อมั่นว่าการที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราและผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยดำเนินธุรกิจมากว่า 11 ปี เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้นำเสนอข้อมูลให้แก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่องและมั่นใจว่าหุ้นNER จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ด้วยผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง และนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
"การที่ NERได้ทำการโรดโชว์ในประเทศไทยจำนวน 17 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง นครปฐม ราชบุรี อุบลราชธานี สุรินทร์ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ บุรีรัมย์ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งโรดโชว์ในต่างประเทศ 3 ประเทศ สิงค์โปร์ ฮ่องกง และจีน ซึ่งมีนักลงทุนเข้าร่วมงานและรับฟังอย่างหนาแน่น ทำให้มีความเข้าใจในธุรกิจของบริษัท และรู้ถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงแผนการขยายธุรกิจในอนาคตที่ชัดเจน" นายสมภพ กล่าว
ด้านนายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ ถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ต้องขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ได้ให้ความสนใจในการจองซื้อหุ้นของบริษัท สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ NER จะนำเงินที่ได้จากลงทุนในเครื่องจักรเพื่อปรับปรุงเครื่องจักรยางแผ่นผสม (RSS Mixtures Rubber) ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 60,000 ตันต่อปี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 และมีแผนที่จะสร้างโรงงานใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตยางแท่ง (STR) และยางแท่งผสม (Mixtures Rubber) กำลังการผลิต 172,800 ตันต่อปี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 ส่วนเงินระดมทุนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ เมื่อรวมการลงทุนในเครื่องจักรเพื่อปรับปรุงเครื่องจักรยางแผ่นผสม (RSS Mixtures Rubber) ที่จะแล้วเสร็จในปี 2562 และการลงทุนก่อสร้างโรงงาน ยางแท่ง STR และยางแท่งผสมแห่งใหม่ที่จะแล้วเสร็จในปี 2563 จะส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตยางพาราแปรรูป รวมทั้งโรงงานเป็น 465,600 ตันต่อปี
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2560 บริษัทมีรายได้รวม 9,819.70 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 224.12 ล้านบาท และสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 3,976.51ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 166.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 4.19%