ติดตามไทยนิยม กษ. ปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกยาง พัฒนาอาชีพเกษตรกรเพื่อความยั่งยืน

อังคาร ๐๖ พฤศจิกายน ๒๐๑๘ ๑๐:๑๔
นางสาวจริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการติดตามโครงการพัฒนาอาชีพชาวสวนยางรายย่อยเพื่อความยั่งยืน ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน โดยการส่งเสริมให้เกษตรกรตัดโค่นต้นยาง ในพื้นที่ 65 จังหวัด เพื่อลดพื้นที่ปลูกยางพาราและปริมาณผลผลิตที่จะเข้าสู่ระบบ อีกทั้งลดความเสี่ยงผลกระทบจากราคายางตกต่ำและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนยาง มีการสนับสนุนเงินอุดหนุนค่าตัดโค่นต้นยางให้เกษตรกร 2 งวด ได้แก่ งวดที่ 1 ไร่ละ 4,000 บาท และ งวดที่ 2 ไร่ละ 6,000 บาท นอกจากนี้ ยังส่งเสริมด้านการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมใหม่เพื่อทดแทนการทำอาชีพชาวสวนยาง โดยการจัดอบรมให้เกษตรกรเพื่อพัฒนาอาชีพด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง หลังการตัดโค่นต้นยาง

ในการนี้ สศก. ได้ทำการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโครงการ พบว่า โครงการได้เริ่มดำเนินการ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2561 จนถึง 30 กันยายน 2561 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน 14,623 ราย พื้นที่เข้าร่วมโครงการ 93,062 ไร่ เกษตรกรตัดโค่นต้นยางแล้วเสร็จ 13,030 ราย ในพื้นที่ 69,080 ไร่ (เป้าหมาย 30,000 ราย พื้นที่ 150,000 ไร่) โดยเกษตรกรร้อยละ 37 ตัดสินใจนำพื้นที่เข้าร่วมโครงการ เนื่องจากเห็นว่า ต้นยางไม่สมบูรณ์ ให้ผลผลิตน้อย ส่วนร้อยละ 28 เห็นว่าราคายางพาราตกต่ำ และร้อยละ 23 ต้องการปรับเปลี่ยนอาชีพ ในขณะที่ร้อยละ 12 ขาดแรงงานในการดูแล สวนยาง

ขณะนี้ เกษตรกรร้อยละ 74 ได้รับเงินอุดหนุนค่าตัดโค่นต้นยาง งวดที่ 1 แล้ว และเข้ารับการอบรมการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมใหม่เพื่อทดแทนการทำอาชีพชาวสวนยาง โดยพบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่มีความสนใจด้านการปลูกไม้ผล/ไม้ยืนต้น พืชไร่ และพืชผักสวนครัว ตามลำดับ และงวดที่ 2 เกษตรกรร้อยละ 61 ได้รับเงินอุดหนุนค่าตัดโค่นต้นยางเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการยางแห่งประเทศไทยและกรมส่งเสริมการเกษตร ได้เร่งดำเนินการให้เกษตรกรได้รับเงินอุดหนุนให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป

สำหรับภาพรวม เกษตรกรมีความพึงพอใจต่อภาพรวมโครงการระดับมาก และยังคงต้องการให้ภาครัฐขยายโครงการและสนับสนุนเงินอุดหนุนรวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาอาชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเกษตรกรให้ข้อคิดเห็นว่า ภาครัฐควรปรับลดหลักเกณฑ์การกำหนดคุณสมบัติของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เช่น เกษตรกรที่มีพื้นที่สวนยางมากกว่า 50 ไร่ และกำหนดอายุของยางในการเข้าร่วมโครงการเป็นยางที่เปิดกรีดแล้วเท่านั้น ซึ่งหากปรับลดหลักเกณฑ์ลง เกษตรกรจะให้ความสนใจในการเข้าร่วมโครงการมากยิ่งขึ้นรวมทั้งต้องการให้จัดหาตลาดเพื่อรองรับผลผลิตจากเกษตรกรที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนอาชีพเพิ่มเติม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๐๑ ธนาคารไทยพาณิชย์คว้าแชมป์ธนาคารแห่งปีต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน
๑๓:๐๔ จุฬาฯ ผนึก สมช. และกองทัพเรือ ลงนามความร่วมมือ จัดตั้ง องค์กรจัดการความรู้ทางทะเลของประเทศไทย
๑๓:๓๖ พาราไดซ์ พาร์ค ยกร้านอาหารดังจากเมืองนางาซากิ Ringer Hut (ริงเกอร์ฮัท) และ Hamakatsu (ฮามาคัตสึ) เปิดสาขาใหม่ ชั้น
๑๓:๕๒ สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์สงกรานต์ ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ เน้นย้ำ ดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ คาดเข็มขัดนิรภัย รถตู้โดยสารสาธารณะปลอดภัย
๑๑:๑๐ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ คว้ารางวัลใหญ่ GRANDE จากเวที ADFEST 2025 จาก แคมเปญสมัครบัตร What the Fast!
๑๑:๒๘ ทรู เปิดพื้นที่อัจฉริยะแห่งอนาคต True Branding Shop โฉมใหม่ ขนทัพเทคโนโลยีล้ำสมัยจากแบรนด์ชั้นนำ ยกระดับทุกมิติไลฟ์สไตล์ดิจิทัล ณ ชั้น 3
๑๑:๐๔ ทัช พร็อพเพอร์ตี้ แนะ 7 แนวทาง อาคารรับมือช่วงมรสุมหลังแผ่นดินไหว จุดไหนต้องเฝ้าระวังเพิ่ม
๑๑:๓๔ OPPO ส่งเสริมเยาวชนพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ร่วมบริจาคอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาให้แก่มูลนิธิสันติสุข
๑๑:๓๖ NITMX เผยสถิติการใช้งาน PromptPay มีนาคม 2568 ยอดธุรกรรมแตะ 2.1 พันล้านรายการ หนุนไทยสู่สังคมไร้เงินสด
๑๐:๒๘ NT แนะนำบริการ AWS Migration Assessment and Deployment เพื่อช่วยหน่วยงานภาครัฐ ย้ายโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีขึ้นคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด