"โดยกิจกรรมลอยกระทงในปีนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21-24 พ.ย.นี้ กับแนวคิด 'สุข แสง ศิลป์' เพื่อสืบสาน อนุรักษ์ขนบธรรมเนียม และเป็นแบบอย่างที่ดีสืบต่อไปให้คนรุ่นหลัง ภายในงานได้รังสรรกิจกรรมต่างๆ ไว้มากมาย อาทิ กิจกรรมกระทง DIY พิธีขอขมาพระแม่คงคา ศิลป์ร่วมสมัยจากชุมชน ตลอดจนบูธอาหารชื่อดัง รวมถึงความสนุกจากมินิคอนเสิร์ตกับศิลปินชื่อดัง อาทิ ลิปตา เก่ง ธชย ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานตลอดทั้ง 4 วันกว่า 200,000 คน ส่วนช่วงเคาท์ดาวน์ในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ คาดว่าจะมียอดนักท่องเที่ยวสูงถึง 150,000 คน จากไฮท์ไลท์ต่างๆ ที่จัดเต็มตลอดทั้งงาน" นางสาวเปรมินทร์ เลอนรเสฏฐ์ กล่าว
นอกจากนี้ทางเอเชียทีค ได้สร้างความโดดเด่นด้วยการเป็น Outdoor Shopping Mall ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีการบริการครบวงจร โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาใช้บริการต่างๆ ได้ครบครัน ทั้งร้านอาหารที่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ หลากหลายเมนู รวมถึงสินค้าหลากหลายรูปแบบในราคาที่จับต้องได้ พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศคุ้งน้ำเจ้าพระยาที่สวยที่สุดในกรุงเทพมหานคร จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาใช้บริการ โดยการเปิดตัวของธุรกิจริมน้ำใหม่ๆ ก็ถือเป็นการส่งเสริมให้ธุรกิจริมน้ำมีความคึกคักยิ่งขึ้น เป็นการสร้างความรู้สึกใหม่ให้กับธุรกิจรีเทลในไทย ที่สร้างประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยวได้พบกับความหลากหลาย ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2562 นั้น นางสาวเปรมินทร์ เลอนรเสฏฐ์ กล่าวว่า ได้วางแผนจะขยายและสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่ยังไม่เคยเข้ามาสัมผัสบรรยากาศ Outdoor Shopping Experience ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ที่ลูกค้าสามารถใช้เวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเย็นถึงยามค่ำคืนได้ครบทุกไลฟ์สไตล์ สำหรับลูกค้าชาวต่างชาตินั้นได้วางแผนขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวให้ครอบคลุมทั่วโลก โดยเน้นการประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น นอกจากนี้จะมีไฮท์ไลท์ใหม่ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยว ด้วยเครื่องเล่นนำเข้าจากต่างประเทศ ที่จะมาสร้างความตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน และเรือสิริมหรรณพ เรือใบสามเสาอิงประวัติศาสตร์สำคัญในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่จะมาสร้างความภูมิใจให้กับชาวไทยได้ระลึกถึงความสัมพันธ์ด้านการค้าทางน้ำมาเป็นระยะเวลายาวนาน
"ทั้งนี้ยังได้จัดทำแผนประชาสัมพันธ์ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งกิจกรรมโรดโชว์ ประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยว และเชิญชวนให้เดินทางมาเที่ยวที่เอเชียทีค รวมถึงการปรับปรุงในส่วนของลาดจอดรถ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนการเพิ่มสิทธิพิเศษให้กับกลุ่มลูกค้าเอเจนท์ และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพักตามลำพัง (Free Individual Traveler : F.I.T) ให้ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าในแต่ละประเทศมากขึ้น ซึ่งกลยุทธ์ในทุกๆ ส่วนจะส่งเสริมให้เอเชียทีคยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน" นางสาวเปรมินทร์ เลอนรเสฏฐ์ กล่าวสรุป