นายภาสิต ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC กล่าวว่า บริษัท สหการวิศวกร จำกัด หรือ SKW ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ รุกธุรกิจเดินหน้ารับงานก่อสร้างคลังสินค้าและระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าแบบอัตโนมัติ หรือ Automated Storage Retrieval System(AS/RS) ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตร บริษัท ออโต้ โมชั่น เวิร์ค จำกัด ประเดิมงานแรกงานโครงการจ้างเหมาออกแบบและก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่นจากบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (PTTOR) มูลค่างาน 600 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ระยะเวลาโครงการ 450 วัน โดยได้ร่วมลงนามในสัญญารับเหมาก่อสร้างกับ PTTOR ไปเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา
สำหรับในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคมของปีนี้ นอกจากโครงการ AS/RS ของ PTTOR ที่ระบุข้างต้นแล้ว ทางกลุ่ม TRC ได้งานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท ได้แก่
1. โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยก ณ ระนอง จังหวัดกรุงเทพฯ มูลค่างาน 1,257 ล้านบาท
2. โครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนสามวา จังหวัดกรุงเทพฯ มูลค่างาน 172 ล้านบาท
3. โครงการสร้างเสาเข็มและโครงสร้าง FN จังหวัดระยอง มูลค่างาน 35 ล้านบาท
4. โครงการยกระดับความปลอดภัยบริเวณทางแยกขนาดใหญ่ ตอนลำแก่น-ทับละมุ จังหวัดภูเก็ต มูลค่างาน 18 ล้านบาท
5. โครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติไปยังสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ ปตท. พี.เอ็น.ปิโตรเลียม จังหวัดนครราชสีมา มูลค่างาน 15 ล้านบาท
สำหรับงาน SKW ที่มีโอกาสได้รับงานค่อนข้างสูง โดยคาดว่าจะทราบผลอย่างเป็นทางการภายในเดือนนี้ ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3304สายแยกทางหลวงหมายเลข 315 (ดอนสีนนท์) – บรรจบทางหลวงหมายเลข 331 (แปลงยาว) อยู่ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มูลค่างานประมาณ 560 ล้านบาท
นายภาสิต กล่าวถึงภาพรวมของการประมูลในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 นี้ ว่าบริษัทฯ เตรียมตัวจะเข้าประมูลงานใหม่รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ได้แก่ งานโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ 3 โครงการ มูลค่างาน 45 ล้านบาท โครงการนำสายไฟลงใต้ดิน 3 โครงการ โครงการจ้างก่อสร้างอาคาร มูลค่างาน 800 ล้านบาท และโครงการโรงงานผลิตยารังสิต ระยะที่สอง มูลค่างาน 5,000 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2561 ที่จะประกาศวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ คาดว่าจะสดใสจากการรับรู้รายได้จากงานในมือมากขึ้น และในภาพรวม ผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก นอกจากนั้นแล้ว บริษัทฯ มีการทบทวนวิสัยทัศน์และปรับปรุงแผนกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไทยในโมเดล ไทยแลนด์ 4.0 ภายใต้ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน โดยภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ คณะกรรมการบริษัทจะมีการพิจารณาอนุมัติแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปี (2562-2564) โดยบริษัทจะรุกธุรกิจประเภทบริการโซลูชั่นที่มีนวัตกรรมเพื่อให้มีความหลากหลายรองรับอุตสาหกรรมมากขึ้นจากเดิมที่เน้นก่อสร้างในอุตสาหกรรม Oil & Gas เพียงอย่างเดียว