ICNB ระดมนักวิจัยทั่วโลก ชี้ทางพัฒนาชนบทให้เจริญอย่างยั่งยืน

พุธ ๐๗ พฤศจิกายน ๒๐๑๘ ๑๒:๑๙
สถาบันการสร้างชาติ ร่วมกับ สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา และ The Women's Institute of Management (Malaysia) จัดงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติเพื่อการสร้างชาติ (International Conference on Nation-Building: ICNB) ครั้งที่ 2 ประจำปี 2561 ขึ้น ระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ณ โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพฯ รัชดา เพื่อมุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนผลงานวิจัยในระดับนานาชาติ และบูรณาการองค์ความรู้ด้านต่างๆ โดยในปีนี้ใช้ชื่องานว่า The Second International Conference on Nation-Building 2018: Innovative Solutions for Rural Development to Move towards a Developed Country เปิดเวทีให้นักวิชาการ นักวิจัย อาจารย์ นิสิตนักศึกษา และบุคคลทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และงานวิจัยด้านนวัตกรรมยุทธศาสตร์การพัฒนาชนบทเพื่อการสร้างชาติ

ทั้งนี้ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้ ดร.วราภรณ์ พรหมพจน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นตัวแทนกล่าวเปิดงาน โดย ได้กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาชนบท และ ได้เดินหน้าในการพัฒนาชนบทอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เข้ามาทำหน้าที่เมื่อ 4 ปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้และการบุกรุกที่ดินของรัฐ การปราบปรามผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น การเปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยกว่า 13 ล้านคน การให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การสร้างอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ให้กลุ่มคนเหล่านี้ และการแก้หนี้นอกระบบครั้งใหญ่ เป็นต้น ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีส่วนสำคัญอย่างมากในการพัฒนาชนบท ผ่านการพัฒนาภาคเกษตร โดยกระทรวงได้จัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรและสหกรณ์ ระยะ 20 ปี (2560-2579) โดยมีวิสัยทัศน์ คือ เกษตรกรมั่นคง ภาคการเกษตรมั่งคั่ง ทรัพยากรเกษตรยั่งยืน โดยยุทธศาสตร์และมาตรการดังกล่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หวังว่าจะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาการเกษตรของไทย และ มีส่วนทำให้ชนบทของประเทศไทยพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่งการจะดำเนินยุทธศาสตร์และนโยบายต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องมีความรู้ มีการวิจัยเป็นพื้นฐาน งานสัมมนาครั้งนี้จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

ด้าน นางซุไรดา บินติ กามารุดดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะและรัฐบาลท้องถิ่น, มาเลเซีย ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "นโยบายการพัฒนาที่อยู่อาศัยและการพัฒนาชนบทของมาเลเซีย" ว่า มาเลเซียมี National Rural Physical Policy 2030 (NRPP) เป็นแผนพัฒนาชนบทโดยเฉพาะฉบับแรก ที่แสดงนโยบาย ยุทธศาสตร์ ในการบรรลุวิสัยทัศน์การพัฒนาชนบทปี 2573 เป้าหมายของแผนดังกล่าว คือ การเพิ่มจำนวนประชากรในชนบทโดยคงความเป็นชนบทเอาไว้ รวมทั้งการเปลี่ยนพื้นที่ชนบทซึ่งสวยงามและเงียบสงบเป็นพื้นที่อยู่อาศัย มีโอกาสในการหางานทำและมีสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะที่ดี เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว แผน NRPP 2030 ได้กำหนดให้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก และการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในพื้นที่ชนบทให้เท่าเทียมกับพื้นที่ในเมือง เพื่อให้แน่ใจว่าประชากรในชนบทจะสะดวกสบาย มีประสิทธิภาพ และมีโอกาสที่เท่าเทียมกับประชากรในเมือง

ทางด้าน ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติ ชี้ว่า การพัฒนาชนบทไม่จำเป็นที่พื้นที่ชนบทจะต้องรักษาความเป็นชนบทอยู่ แต่อาจกลายเป็นเมืองก็ได้ โดยมี 3 เส้นทางการพัฒนา คือ พัฒนาชนบทให้เป็นชนบทที่พัฒนาแล้ว พัฒนาชนบทเป็นเมืองใหม่ และเชื่อมโยงชนบทเข้ากับเมืองที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้เพราะประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่มีประชากรในเมืองสูงถึงร้อยละ 80 ขณะที่ประเทศไทยมีประชากรในเมืองเพียงร้อยละ 50 อย่างไรก็ดี การพัฒนาชนบทมีข้อจำกัด หรือมีความขัดแย้งของเป้าหมายหรือทางเลือกในการพัฒนา 4 ด้าน ได้แก่ หนึ่ง การขยายตัวมักสวนทางกับความเท่าเทียม สอง แนวทางความสำเร็จในบางชุมชน เมื่อนำไปทำกันทั้งประเทศอาจล้มเหลว สาม ความขัดแย้งระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์ และสี่ แนวทางการพัฒนาที่รัฐนำ ชุมชนนำ หรือตลาดนำ ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน

ทั้งนี้ ดร.เกรียงศักดิ์ ยังได้เสนอ 7 ยุทธศาสตร์การพัฒนาชนบท ประกอบด้วย

(1) การใช้ทรัพยากรในชนบทให้เต็มศักยภาพแต่ยั่งยืน เช่น การแปลงทรัพยากรเป็นทุน

(2) การส่งเสริมการลงทุนและสะสมทุนทุกประเภท เช่น การส่งเสริมการลงทุนพลังงานหมุนเวียน

(3) การสนับสนุนการเคลื่อนย้ายแรงงานในภาคเศรษฐกิจดั้งเดิมออกจากชนบท

(4) การสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจของชนบท โดยเปลี่ยนชนบทเป็นพื้นที่การบริโภค เช่น การส่งเสริมการท่องเที่ยว และการพัฒนาเป็นชุมชนของชาวต่างชาติที่เกษียณอายุ

(5) การสร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะ เช่น การจัดโซนนิ่งการผลิต และการสร้างอัตลักษณ์ท้องถิ่น

(6) การใช้เทคโนโลยีพัฒนาชุมชน เช่น การพัฒนาการเกษตรแม่นยำสูง (precision agriculture) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาชนบท

(7) การสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐกิจ ธุรกิจ ประชากิจ โดยเฉพาะการเพิ่มบทบาทวิสาหกิจเพื่อสังคมในการพัฒนาชนบท และความร่วมมือระหว่างท้องถิ่น และระหว่างชนบทกับเมือง

"หากเราต้องยกระดับความเป็นอยู่ของคนชนบทให้พ้นความยากจน เราต้องทำงานหนักขึ้น ทำงานให้เร็วขึ้น และทำงานให้ฉลาดขึ้น" ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ