สกอ.เดินหน้าครูคืนถิ่น-หวังสร้างเลือดใหม่ ยอมรับสเปคสูงแต่คุ้มค่า แม้รอเวลา 10 ปี

พุธ ๐๗ พฤศจิกายน ๒๐๑๘ ๑๔:๔๙
ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ประจำปีการศึกษา 2561 ว่า โครงการนี้อาจจะต้องใช้เวลาและความยากลำบาก ในการเลือกเฟ้นนักเรียนนักศึกษาที่สนใจเข้าร่วมโครงการจริง ๆ อย่างน้อยประมาณ 10 ปี แต่คุ้มค่ากับการรอคอย เพราะเมื่อถึงวันนั้นเมื่อข้าราชการครูเก่าที่เกษียณไป แต่เราจะได้ครูสายพันธุ์ใหม่ที่มีความพร้อม และเก่งเข้ามาแทนที่ ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อวันนั้นมาถึงทุกอย่างจะเห็นเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ผลการสอบคัดเลือกปรากฏว่าปี 2561 สามารถคัดเลือกนิสิตนักศึกษาที่สอบผ่านเกณฑ์ได้ จำนวน 2,784 คน จากอัตราที่มีบรรจุ 4,156 คน ใน 35 สาขา ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่พอใจ

ดร.สุภัทร กล่าวว่า ผลจากตัวเลขดังกล่าวแม้จะคัดเลือกเด็กได้ไม่ตรงตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ แต่มีความจำเป็นที่จะต้องคงหลักเกณฑ์และคุณสมบัติผู้ที่จะตั้งใจเข้ามาอยู่ในสายวิชาชีพครู เพื่อเป็นครูที่มีคุณภาพ อย่างสมบูรณ์แบบ หรือครูสายพันธุ์ใหม่ในอนาคต การกำหนดเกณฑ์ผลการเรียนระหว่างที่เรียนแต่ละชั้นปีจึงสูงต้องมีผลการเรียน 3.0 ขึ้นไปแล้ว ยังต้องผ่านการสอบวัดผลด้านภาษาอังกฤษ TOFLE ระดับ 500 คะแนน อีกทั้งนิสิตนักศึกษาที่สอบร่วมโครงการยังจะต้องเรียนหนักอีก 5 ปี ใน 164 หลักสูตร จากสถาบันผลิตครู จำนวน 44 แห่ง เมื่อสำเร็จการศึกษาตามเกณฑ์ที่กำหนด จะส่งชื่อให้หน่วยงานผู้ใช้บรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย จำนวน 4,195 คน

ดร.สุภัทร กล่าวต่อว่า สำหรับการคัดเลือกจะใช้ระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา TCAS (ทีแคส) รอบที่ 2 การรับแบบโควตาที่มีการสอบข้อเขียนหรือข้อปฏิบัติ ใช้ผลจากการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) และการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา (วีเน็ต) กรณีผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ผลการทดสอบความถนัดทั่วไป (แกต) และความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพวิชาการ (แพต) แต่ที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่เปิดรับ เช่น แพต 5 วิชา ความถนัดทางวิชาชีพครู หรือแพต 2 ความถนัดทางด้านวิทยาศาสตร์ เป็นต้น โดยแต่ละสาขาวิชาจะกำหนดค่าน้ำหนักผลการสอบไม่เท่ากัน

"โครงการนี้ เมื่อนิสิตนักศึกษาทั้ง 4,156 คน สำเร็จการศึกษารายชื่อจะถูกส่งให้หน่วยงานผู้ใช้บรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูผู้ช่วย โดยแบ่งตามอัตราที่ใช้ในการบรรจุ ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 3,935 คน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 161 คน กรุงเทพมหานคร 50 คน และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัย (กศน.) 10 คน แต่เมื่อยอดเปิดรับไม่ได้ตามเป้า ก็ต้องคืนอัตราที่เหลือกลับคืนต้นสังกัดต่อไป" เลขาธิการ สกอ.กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ