รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมีนโยบายการพัฒนาสังคมยั่งยืน จากบทบาทความรับผิดชอบด้านการพัฒนานักศึกษาให้มีสมรรถนะเมื่อจบไปประกอบอาชีพ ให้เป็นคนดีและคนเก่ง ซึ่งจะต้องมีสิ่งแวดล้อมและกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสม รวมถึงนักศึกษาต้องมีความเข้าใจบริบทของสังคม โดยจัดให้มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น Social Lab ห้องปฏิบัติการที่อยู่ในพื้นที่จริง มหาวิทยาลัยนำนักศึกษา และบุคลากรไปทำงาน การมีส่วนช่วยดูแลคนที่ด้อยโอกาสกว่า คนชายขอบ คนที่ขาดโอกาส เช่น คนพิการ เป็นต้น นักศึกษาต้องเข้าใจบริบท ชีวิตความเป็นอยู่ โดยหลัก 1. เปิดใจทำความเข้าใจ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน 2. เอื้ออาทร 3. การมีจิตสาธารณะ และใช้ความสามารถสมรรถนะที่เรามีไปช่วย นักศึกษาที่จบไปแล้วจะเป็นพลเมืองที่ดี ไปช่วยสังคม สร้างสังคมเอื้ออาทร ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของสังคมโดยรวมดีขึ้น
คนพิการ หากเราพัฒนาทักษะให้สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ สอดคล้องเหมาะสมกับความต้องการของภาคเอกชน มีภาคเอกชนจำนวนมากต้องการรับคนพิการเข้าทำงาน ใน มจธ.เอง เรามีกลุ่มคนพิการ กับนักศึกษา ได้มาอยู่ร่วมกัน ได้ทำงานร่วมกัน ทำให้สังคมในมหาวิทยาลัยมีความสมบูรณ์มากขึ้น
ดร.บุญนาค โมกข์มงคลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดานิลี่ จำกัด กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญด้านการพัฒนาสังคมในหลายมิติอย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการพัฒนาศักยภาพคนพิการได้ร่วมกับ มจธ.เป็นปีที่ 5 เพื่อจะสนับสนุนด้านการศึกษา พัฒนาความรู้ความสามารถให้คนพิการสามารถประกอบอาชีพ ซึ่งจะเป็นการสร้างศักยภาพให้กับคนพิการในระยะยาว ตามแนวคิดที่ว่า เปลี่ยนภาระเป็นพลัง
คุณภาวนา อังคณานุวัฒน์ รองผู้ว่าการบริหาร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) องค์กรที่ร่วมสนับสนุนโครงการ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กฟผ. ให้การสนับสนุนการพัฒนาคนพิการมาโดยตลอด เช่น ให้สถานที่ขายของให้กับคนพิการ รับคนพิการเข้าทำงานและเติบโตในสายงานด้วยความเชื่อมั่นว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มีความเท่าเทียมกัน และให้ความสำคัญในการสร้างคนให้มีความยั่งยืน ด้วยการให้ความรู้สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ โดยในปีนี้ได้ให้การสนับสนุนโครงการฝึกอบรม-ฝึกงานคนพิการ ให้กับ มจธ. จำนวน 30 ราย
นายธันวา แก่นจันทร์ ผู้เข้าร่วมโครงการ พิการมือขาดทั้งสองข้าง เล่าว่า เมื่อเกือบสิบปีที่แล้วได้รับอุบัติเหตุจากไฟฟ้าแรงสูง และทำให้ถูกตัดแขนทั้งสองข้าง ที่ผ่านมาเคยรู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ได้รับกำลังใจจากครอบครัว ทำให้ลุกขึ้นสู้ การมาร่วมโครงการฝึกอบรม-ฝึกงานคนพิการ ของ มจธ. ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิชาหลักสูตรสำนักงาน ซึ่งเป็นวิชามีช่องทางในการประกอบอาชีพมากขึ้น ซึ่งทำให้รู้สึกมีความมั่นใจในการทำงาน และกล้าออกไปสู่สังคมมากขึ้น
โครงการฝึกอบรม-ฝึกงาน ตามกฎหมายมาตรา 35 ตาม พรบ. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 โดยดำเนินโครงการฯ เป็นระยะเวลา จำนวน 6 เดือน โดยมีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการ 6 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ดานิลี่ จำกัด บริษัท ศรีไทยมิยากาวา จำกัด บริษัท มาราธอน (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เสถียรอุตสาหกรรม จำกัด และ บริษัท ไทยสมบูรณ์การทอ จำกัด