(แถวยืนจากซ้าย) นพ. อรรถพล เกิดอรุณสุขศรี รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ คุณขวัญใจ ถิ่นมีผล รองผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ คุณพิมพ์นิภา ธนาสุริยฉัตร์ หัวหน้าพยาบาล โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน นพ. ประเสริฐ ประกายรุ้งทอง หัวหน้ากลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และ คุณสุรีย์พร กุมภคาม หัวหน้ากลุ่มงานพยาบาลด้านวิชาการ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
โครงการดิ แอสเพน ทรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจร เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ 'assistive tableware' ชุดอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการทานอาหารของผู้สูงอายุที่ออกแบบโดยคนไทย พร้อมส่งมอบต่อโรงพยาบาลในประเทศไทย เพื่อทำให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้ด้วยตนเอง
บริษัท แอสเพน คอร์ปอเรชั่น จำกัด โครงการ ภายใต้แบรนด์ "ดิ แอสเพน ทรี" ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจร จัดงานส่งมอบนวัตกรรมใหม่ ชุดอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารสำหรับผู้สูงอายุ 'The Aspen Tree Assistive Tableware by Dr Singh Intrachooto' ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และเด็ก ให้สามารถทานอาหารได้ด้วยตนเอง จำนวน 4,000 ชุด ถึง 8 หน่วยงานหลัก ได้แก่ สภากาชาดไทย สวางคนิเวศ โรงพยาบาลภายใต้สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร และกระทรวงสาธารณสุข ณ ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนหรือ RISC ชั้น 4 อาคารแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด
ชุดอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารนี้ได้รับการออกแบบโดยทีมงานชาวไทย นำโดย รศ. ดร. สิงห์ อินทรชูโต อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และหัวหน้าคณะที่ปรึกษาศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนหรือ RISC ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยของบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ทั้งนี้ชุดอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารนี้จะถูกส่งมอบต่อให้โรงพยาบาลทั่วประเทศไทยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
รศ. ดร. สิงห์ กล่าวว่า "ชุดอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารจากดิ แอสเพน ทรี นี้ถือเป็นอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารที่ออกแบบใหม่ในทุกองค์ประกอบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางกายภาพ ตัวอย่างเช่นสีเขียวอ่อนจะทำให้มองเห็นอาหารได้ชัดเจนเพราะมีความโดดเด่นออกมาจากภาชนะ หรือฐานของชามมีความเอียงเพื่อให้ง่ายต่อการตักอาหาร และเราได้คิดค้น "สคูน" หรือ scoon "ช้อน" ที่มีสรีระคล้ายกับสกู๊ปที่ตักไอศกรีม เพื่อให้ง่ายต่อการตักอาหารขึ้นเพื่อรับประทาน"
ทีมงานใช้เวลาทั้งสิ้น 2 ปีในการพัฒนาชุดอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารดังกล่าว ซึ่งทีมงานนั้นประกอบด้วยศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบสิ่งแวดล้อม สำนักงานบริการวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และโรงพยาบาลกลาง ผสมผสานกับประสบการณ์ของนักออกแบบผลิตภัณฑ์ พยาบาล และผู้ดูแลผู้ป่วย
มิสเฮ จูน พาร์ค ประธานผู้อำนวยการบริษัทดิ แอสเพน คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดย MQDC กล่าวว่าชุดอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารนี้มีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีความยากลำบากในการรับประทานอาหาร
"โครงการ ดิ แอสเพน ทรี มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เกิด 'อารยธรรมของผู้สูงอายุ' หรือ Civilized Ageing ดังนั้นเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ นวัตกรรมใหม่แห่งการออกแบบนี้จะมีส่วนอย่างมากในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยสูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ การวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้สูงอายุให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือตนเองมากเพียงใด เราหวังว่าผู้ป่วยที่ได้ใช้อุปกรณ์ชุดนี้จะมีความสุขในการรับประทานอาหาร และนี่เป็นอีกส่วนสำคัญที่มาเติมเต็มพันธกิจหลักของ MQDC นั่นคือ 'for all well – being' ให้สมบูรณ์" มิส พาร์ค กล่าว
โครงการดิ แอสเพน ทรี จะทำการส่งมอบชุดอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารเพื่อช่วยในการรับประทานอาหารนี้จำนวน 4,000 ชุดไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ ภายในเดือนพฤศจิกายน โดยร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ คือ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลภายใต้สำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลภายใต้กระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ชุดอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารจะได้รับการจัดหาและจัดส่งโดยบริษัทดี ซูพรีม จำกัด ซึ่งอยู่ในกลุ่มบริษัทดีที (DTGO) บริษัทแม่ของ MQDC
คุณวิฑิต อาภาพาส ประธานผู้อำนวยการบริษัทดี ซูพรีม จำกัด กล่าวว่า "ดี ซูพรีม รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งทึ่รับหน้าที่จัดส่งชุดอุปกรณ์ช่วยทานอาหารเหล่านี้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ในฐานะบริษัทของคนไทย เราคิดอยู่เสมอว่าความรับผิดชอบต่อสังคมคือสิ่งที่เราต้องยึดมั่น เราจึงให้ความสำคัญถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสังคมผู้สูงอายุโดยในปี 2583 หนึ่งในสี่ของประชากรทั้งหมดจะมีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน"
เกี่ยวกับดิ แอสเพน ทรี
ดิ แอสเพน ทรี ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจร ทั้งที่พักอาศัย สิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการ และสร้างสังคมสำหรับผู้สูงอายุในประเทศไทย และอุทิศตนเพื่อให้เกิดแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุดในโลก
ก่อตั้งโดยบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล ดิ แอสเพน ทรี มีความมุ่งมั่นในการสร้าง 'การดูแลตลอดช่วงอายุ' และ 'Aging in place' หรือ "การดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจร โดยที่ผู้สูงอายุสามารถอยู่อาศัยในบ้านของตนเองได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น รวมถึงการให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกและที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุ"
ด้วยความร่วมมือกับองค์กรระดับโลก ทำให้การบริการของ ดิ แอสเพน ทรี รวมผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่าง ๆ พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อนำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพสูงสุดพร้อมกับการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุด
ดิ แอสเพน ทรี ตั้งอยู่ที่โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาด 300 ไร่ บริเวณ ถนนบางนา-ตราด กรุงเทพฯ ที่ซึ่งผู้อยู่อาศัยจะได้ใช้ชีวิตท่ามกลางพื้นที่สีเขียวที่กว้างขวาง และแวดล้อมด้วยสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สถานที่ทำงาน ร้านค้าปลีก และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ภายใต้แนวคิด 'For all well-being' ของ MQDC ทำให้ ดิ แอสเพน ทรี ใส่ใจในความเป็นอยู่ที่ดีของคนและทุกสรรพสิ่งบนโลก
ดิ แอสเพน ทรี ยังดำเนินงานตามหลักการ 'นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน' อีกด้วย โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกด้านจิตวิทยาและงานวิจัยอื่น ๆ เพื่อประยุกต์ให้เข้ากับความต้องการทางสังคมผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี
เกี่ยวกับ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC)
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทดีที (DTGO Corporation Limited - DTGO) โดยมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจพัฒนา ลงทุน และจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยทั้งแบบบ้านเดี่ยวและคอนโดมีเนียม และอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูส โดย MQDC ได้มีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ แมกโนเลียส์ และวิสซ์ดอม
MQDC ได้ให้การรับประกัน 30 ปีในโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกโครงการเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการก่อสร้างที่ดีเยี่ยม
จากพันธกิจของเราที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับทุกคน MQDC จึงได้ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพและนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับผู้บริโภคและสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มคุณค่าให้กับสังคมรอบโครงการ
ที่ MQDC เราใส่ใจทุกสิ่งมีชีวิตบนโลก เราจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อประโยชน์สุขของสังคมและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.mqdc.com.
เกี่ยวกับบริษัทดี ซูพรีม จำกัด
บริษัทดี ซูพรีม จำกัด เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญทางการค้าทั้งในและต่างประเทศ ก่อตั้งในปีพ.ศ. 2542 ด้วยประสบการณ์ของทีมงานที่มีส่วนช่วยในความสำเร็จของคู่ค้าในการจัดซื้อสินค้าเกรดพรีเมี่ยมและวัสดุอื่น ๆ ที่ตรงกับความต้องการของตลาด
เพื่อบรรลุเจตนารมณ์ของกลุ่มบริษัทดีที ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเรา เราจึงมุ่งมั่นในการคัดสรรสินค้าที่มีความปลอดภัยสูง มีคุณภาพที่ดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เรามีความตั้งใจที่จะร่วมกับทุกธุรกิจและเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันคุณค่าขององค์กร เพื่อเป็นรากฐานให้กับการสร้างธุรกิจที่มีความยั่งยืน
บริษัทดี ซูพรีม พร้อมและยินดีที่จะทำงานร่วมกับคู่ค้าทางธุรกิจทั้งภายในและภายนอกลุ่มบริษัทดีที เพื่อนำเสนอวิธีการที่มีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์สินค้า
บริษัทดี ซูพรีม เป็นผู้เชี่ยวชาญในการจัดหาสินค้าประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้ากลุ่มสื่อสารและเทคโนโลยี สินค้ากลุ่มพรีเมี่ยมและการพัฒนาแบรนด์ วัสดุก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์สำหรับที่อยู่อาศัย และสินค้าเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี
เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทดีที (DTGO)
กลุ่มบริษัทดีที (DTGO) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2536 เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญด้านธุรกิจและสังคม เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของคนและสังคมทุกรุ่น โดยผ่านกระบวนการทางความคิดเพื่อให้เกิดความเข้าใจในพฤติกรรมของมนุษย์ ควบคู่ไปกับระบบสิ่งแวดล้อม
กลุ่มบริษัทดีที (DTGO) ใช้วิธีการแบบบูรณาการในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระหว่างประเทศ มีการให้บริการทางด้านออกแบบสถาปัตยกรรม การก่อสร้าง การนำเข้าวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาที่ดิน
นอกจากนี้กลุ่มบริษัทดีทียังให้ความสำคัญกับกิจกรรมด้านสังคม โดยได้ก่อตั้งมูลนิธิพุทธรักษา ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย และมูลนิธิ ดีที แฟมิลี่ ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศฮ่องกง ทั้งสองมูลนิธิมีการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจต่อเด็กขาดโอกาสทางสังคม โดยการให้การศึกษาและพัฒนาความรู้ ความสามารถเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้ชีวิตต่อไป
ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dtgsiam.com