บริษัท แซดเอฟ เลมฟอร์เดอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด โรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ( ระยอง ) ของ WHA Industrial Developmentบนพื้นที่กว่า 12 ไร่ โดยทาง ZF เล็งเห็นความสำคัญของประโยชน์ของพลังงานสะอาด (Clean Energy) และที่ผ่านมาบริษัทได้รับความร่วมมือทางธุรกิจเป็นอย่างดีระหว่าง WHA Industrial Development จึงเป็นที่มาในการใช้บริการด้านติดตั้ง Solar Roof Top กับ WHAUP ในครั้งนี้ "การใช้พลังงานแสงอาทิตย์จะมีส่วนช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และยังช่วยลดต้นทุนการใช้พลังงานในโรงงานของเราอีกด้วย " นายสิรฉัตร สมัยกุล ผู้จัดการโรงงาน ZF Thailand กล่าว
"WHAUP รับผิดชอบในด้านการลงทุนระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ การออกแบบ ดำเนินการด้านวิศวกรรมติดตั้งและก่อสร้าง ขอใบอนุญาต และการบำรุงรักษาให้อย่างครบวงจร โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ถึง 49% จากการใช้พลังงานในปัจจุบัน และสามารถช่วยชดเชยการปล่อย CO2 ได้ประมาณ 550 ตันต่อปี นายมาร์ธินัส จาโคบัส สเตย์น, ZF Lemforder หัวหน้าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อินเดียและแปซิฟิคของChassis Systems กล่าว "นี่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มเราอย่างเต็มที่และเรารู้สึกขอบคุณ WHA Industrial Development และWHAUP เพื่อให้เรามีโอกาสในการปรับปรุงโรงงานของเราด้วยข้อตกลง" win-win " ในครั้งนี้" เขากล่าวสรุป
"โครงการติดตั้งแผง Solar Rooftop ขนาด 0.8 MW บนหลังคาโรงงานของ บริษัท แซดเอฟ เลมฟอร์เดอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) เป็นหนึ่งในแผนงานของบริษัทฯ ในการลงทุนติดตั้งระบบ Solar Rooftop ให้กับบริษัทลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอและนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ได้ทยอยจ่ายไฟฟ้าไปแล้ว 9 โครงการ จำนวน 4.8 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างและเตรียมลงนามสัญญาอีกประมาณ 10 เมกะวัตต์" นายวิเศษ กล่าว
เกี่ยวกับ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP
บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เป็นผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม WHA Group ทั้ง 9 แห่ง โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ให้บริการอยู่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และให้บริการแก่ผู้ประกอบการอื่นๆ ส่วนธุรกิจพลังงานมีรวมถึงการร่วมลงทุนด้านไฟฟ้ากับผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าชั้นนำของประเทศ ในการดำเนินการโรงไฟฟ้าทั้งในส่วนของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) และพลังงานทางเลือก
ธุรกิจหลักของ WHAUP ประกอบด้วย
- ธุรกิจสาธารณูปโภค โดยผลิตและจำหน่ายน้ำเพื่ออุตสาหกรรม และบริหารจัดการน้ำเสีย ให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมต่างๆของ WHA Group ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- ธุรกิจพลังงาน โดยลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยการร่วมลงทุนด้านไฟฟ้ากับผู้ผลิตไฟฟ้าหลายราย เช่น กลุ่มโกลว์ กลุ่มกัลฟ์ และกลุ่ม บี. กริม เพาเวอร์ รวมกำลังการผลิต กว่า 2,500 เมกะวัตต์
- ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติในโครงการ ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอ็นจีดี 2 คาดว่าการก่อสร้างแล้วเสร็จ และพร้อมจำหน่ายก๊าซธรรมชาติให้ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 ได้ภายในไตรมาส 4/2561 นี้ ขณะที่โครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในต้นปี 2562
- ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา หรือ Solar Rooftop ปัจจุบันมีการติดตั้ง Solar Rooftop บนพื้นที่หลังคาอาคารคลังสินค้า ดับบลิวเอชเอ เมกา โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 0.9 เมกะวัตต์ และเริ่มดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ไตรมาสสองของ ปี 2561 นอกจากนั้น WHAUP ยังมีโครงการติดตั้ง Solar Rooftop แบบครบวงจรให้กับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ และภายนอกนิคมฯ ที่สนใจติดตั้งระบบ Solar Rooftop บนหลังคาโรงงาน โดยในปี 2561 คาดว่า WHAUP จะมีการเซ็นสัญญาให้บริการ Solar Rooftop จำนวนทั้งสิ้น 10-15 เมกะวัตต์ และบริษัทตั้งเป้าการให้บริการ Solar Rooftop จำนวน 200 เมกะวัตต์ในอนาคต
เกี่ยวกับ ZF Lemforder
ZF เป็นผู้นำระดับชั้นนำของโลกทางด้านเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนและระบบรองรับน้ำหนัก รวมถึงเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันและเชิงปกป้อง บริษัทของเรามีพนักงานทั่วโลกราวๆ 140,000 คน ฐานการผลิตจำนวน 230 แห่งใน 40 ประเทศ ในปี 2560 ZF ทำยอดขายได้ถึง 36 พันล้านยูโร (ตัวเลขเบื้องต้น) ในแต่ละปีบริษัทได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมากกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายในการทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะต่อยอดความสำเร็จของการออกแบบและผลิตสินค้านวัตกรรม โดย ZF ถือเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกที่ผลิตสินค้าทางด้านยานยนต์ส่งมอบให้กับบริษัทชั้นนำทั่วโลก
ZF เปิดโอกาสให้ยานยนต์ได้มองเห็น คิด และลงมือทำ ผ่านทางเทคโนโลยีที่ครบครัน โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นสู่วิสัยทัศน์ สู่ความเป็นศูนย์ (Vision Zero) ซึ่งก็คือโลกแห่งการขับเคลื่อน ที่ปราศจากอุบัติเหตุและการปล่อยมลพิษ ด้วยผลงานที่ผ่านมามากมายของบริษัท ZF กำลังเดินหน้าการขับเคลื่อนและการให้บริการในภาคยานยนต์ รถบรรทุก และภาคอุตสาหกรรม
ฝ่ายตลาดหลังการขายของ ZF Group ให้การรับประกันสมรรถนะและประสิทธิภาพของยานยนต์ตลอดอายุการใช้งาน ด้วยโซลูชันและผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมจาก ZF ซึ่งประกอบไปด้วยแบรนด์สินค้าที่ได้รับการยอมรับ นวัตกรรมด้านดิจิทัล สินค้าและบริการที่ออกแบบได้ตามต้องการ ตลอดจนเครือข่ายการบริการที่มีทั่วโลก ZF จึงเป็นเพื่อนคู่คิดที่ทุกคนต้องการ และเป็นอันดับ 2 ในตลาดผลิตภัณฑ์อะไหล่ทดแทนระดับโลก