ดร.ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เปิดเผยว่า "กระแสความนิยมในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกและในประเทศไทยมีอัตราเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันประเทศไทยมียานยนต์ไฟฟ้าในจำนวนรวมประมาณ 120,000 คัน ซึ่งในจำนวนนี้แบ่งเป็นยานยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ประมาณ 20,000 คัน และยานยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ประมาณ 120 คัน อ้างอิงข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2561 คาดว่าในอนาคตจะมีประชาชนหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นโดยเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งขณะนี้ได้เร่งขยายจำนวนสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ในอนาคตและสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคที่สนใจยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในหลายด้าน ได้แก่ การปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การสนับสนุนงานวิจัยแบตเตอรี่ สนับสนุนการนำร่องยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มรถสาธารณะ อาทิ รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า และการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง เช่น เตรียมความพร้อมระบบไฟฟ้า และสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) เป็นต้น
ทั้งนี้ จากการเปิดรับสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ในรอบที่ 1-5 ที่ผ่านมา มีสถานีอัดประจุไฟฟ้าจำนวนกว่า 80 สถานี จาก 70 หน่วยงาน และในขณะนี้ทางสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ขยายเวลารับสมัครรอบที่ 6 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 โดยมีเป้าหมายหัวจ่ายจำนวน 34 หัวจ่าย แบบ Normal Charge ทั้งหมด สำหรับหน่วยงานเอกชนสามารถรับการสนับสนุนได้มากที่สุด 10 หัวจ่ายต่อ 1 หน่วยงาน โดยสามารถติดตั้งได้มากกว่า 1 สถานที่ หน่วยงานที่สนใจสามารถยื่นขอรับการสนับสนุนการลงทุน โดยดูรายละเอียดขั้นตอนการขอรับการสนับสนุนได้ที่ https://goo.gl/y69Hyn หรือสอบถามที่สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย www.evat.or.th