'กฤษฎา’ หารือผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่ พร้อมเตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือชาวสวนยาง ต่อครม.

พุธ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๐๑๘ ๑๗:๔๙
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังหารือร่วมกับ 5 บริษัทเอกชนผู้ส่งออกยางรายใหญ่ของประเทศ ได้แก่ บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) บริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) บริษัทยางไทยปักษ์ใต้ และบริษัท เซาท์แลนด์ รับเบอร์ จำกัดณ ห้องประชุม 124 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหาราคายางพารา ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์หามาตรการแก้ไขยางพาราตกต่ำโดยเร่งด่วนภายใน 7วัน โดยที่ประชุมได้เห็นชอบร่วมกันในมาตรการช่วยเหลือชาวสวนยาง ดังนี้ 1.โครงการเสริมความเข้มแข็งของเกษตรกรชาวสวนยาง โดยให้ กยท.ไปพิจารณาจำนวนเงินสนับสนุน โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นเกษตรกรที่ลงทะเบียนไว้กับ กยท. เบื้องต้นไม่ต่ำกว่าเดิมคือ 15 ไร่ ไร่ละ 1,500 บาทเพื่อพัฒนาอาชีพและเพิ่มรายได้ให้ชาวสวนยาง 2. โครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง โดย กยท.กำหนดราคายางขั้นต่ำ 3 ชนิด ได้แก่ น้ำยางสด ไม่ต่ำกว่า กก. ละ 37 บาท ยางก้อนถ้วยไม่ต่ำกว่า กก.ละ 35 บาท และยางแผ่นรมควัน ไม่ต่ำกกว่า กก.ละ 40 บาท หากขายให้สถาบันเกษตรกรแล้วได้ราคาต่ำกว่าที่ประกาศไว้ ให้ใช้เงินจากกองทุนสงเคราะห์สวนยางช่วยเหลือรายบุคคล กก.ละ 2-3 บาท นอกจากนี้ บริษัทผู้ส่งออกได้แสดงความจำนงให้ความร่วมมือ โดยช่วงระหว่างรอ ครม.พิจารณาโครงการฯ จะช่วยรับซื้อยางเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางไม่ให้ต่ำกว่าราคาที่กำหนด โดยจะเริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป และ 3. ทบทวนข้อกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างในการส่งเสริมการใช้ยางในประเทศ เพื่อทำถนน เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบราคากันกับแอสฟัลท์ติกแล้วยางพารามีราคาสูงกว่า แต่คงทนมากกว่า

"กระทรวงเกษตรฯ เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีให้เห็นชอบอีกแนวทางคือ ให้กยท.เป็นผู้ดูแลการผลิตเครื่องอุปกรณ์การนอนให้กับส่วนราชการ อาทิ โรงพยาบาล โรงเรียน ซึ่งขณะนี้กำลังสำรวจจำนวนความต้องการจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงกลาโหม จากนั้นมอบหมาย กยท.ติดต่อซื้อน้ำยางสดมาผลิตแจกจ่ายให้ทั้ง 4 หน่วย เพื่อช่วยดูดซับปริมาณยางในประเทศได้" รมว.เกษตรฯกล่าว

ทั้งนี้ ประเทศไทยผลิตยางพาราได้ปีละ 4.5 ล้านตัน ซึ่งในจำนวนนี้ใช้ในประเทศ 5แสนตัน และส่งออก 4 ล้านตัน ประกอบกับปัจจุบันกำลังประสบภาวะเศรษฐกิจ บางประเทศมีปัญหาการค้า ทำให้การส่งออกยางพาราไม่สามารถส่งออกได้มาก ดังนั้นต้องขยายฐานการแปรรูปการใช้ยางพาราในประเทศ จึงได้เชิญบริษัทผู้ประกอบการยางเข้ามาเจรจา ขอให้ขยายฐานการผลิตและแปรรูปน้ำยางในไทยโดยตรง ตลอดจนขอความร่วมมือกับเกษตรกรให้ลดปริมาณการปลูกยางไปปลูกพืชตัวอื่นอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ