นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม เติมสบายพลัส เผยว่า... "เวนดิ้ง คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าเต็มสูบลุยธุรกิจตู้เติมเงินออนไลน์ ภายใต้ชื่อ 'เติมสบายพลัส' ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าและเป็นที่รู้จักของตลาดมากยิ่งขึ้น ชิงความเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านธุรกิจตู้เติมเงิน โดยในปี 2561 ที่ผ่านมามุ่งเน้นผลักดันการเติบโตของแบรนด์ไปพร้อม ๆ กันทุกด้าน ทั้งยอดขายผลิตภัณฑ์ ประชาสัมพันธ์ กิจกรรมส่งเสริมการตลาด รุกกลยุทธ์ Marketing Influencer โดยมี 'แจ๊ส สปุกนิค ปาปิยอง กุ๊ก กุ๊ก' เป็น พรีเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และมุ่งเน้นในการใช้ความบันเทิง สื่อให้เห็นถึงความง่าย สะดวก สบาย ในการใช้บริการของเติมสบายพลัส ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีอย่างมาก
อีกทั้งตลาดตู้เติมเงินมีโอกาสเติบโตสูงและเป็นตลาดที่มีศักยภาพ จากหลายปัจจัยบวกที่เข้ามาหนุนให้ตลาดขยายตัว ทำให้ตลาดมีการแข่งขันกันสูง เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากที่สุด เติมสบายพลัส ได้มีนวัตกรรมการให้บริการรูปแบบใหม่ๆ ที่หลากหลายและมีความทันสมัย ตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการโอนเงินเข้าธนาคารอื่นๆ หรือการเปิดบริการซื้อไลน์สติ๊กเกอร์, ซื้อ ประกันภัย และพรบ. รถจักรยานยนต์ รถยนต์, ชำระบิลค่าไฟฟ้า-ค่าน้ำประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งถือเป็นตัวแทนรับชำระที่ถูกต้องตามกฎหมายที่เปิดให้บริการชำระผ่านตู้ เป็นต้น แบรนด์จึงสามารถเข้าครองใจกลุ่มลูกค้าได้สำเร็จ บวกกับการทำธุรกิจของบริษัทฯ มุ่งเน้นความยั่งยืน ชอบธรรมและเป็นธรรมกับคู่ค้า, ลูกค้า, พนักงาน, ผู้ถือหุ้น ฯลฯ ทำให้มีตู้เติมเงินออนไลน์ เติมสบายพลัส กระจายอยู่ในตลาดทั่วประเทศและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง กว่า 45,000 ตู้ ตั้งเป้าสิ้นปีขยายเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 52,000 ตู้
และมี 2 ธุรกิจใหม่เพิ่มเข้ามาเพื่อเสริมธุรกิจให้แข็งแกร่ง ที่เปิดให้บริการแล้ว ได้แก่ บริการ 'ตู้กดน้ำกระป๋องอัตโนมัติ เวนดิ้งพลัส' หรือ 'เวนดิ้ง แมชชีน 10 บาทก็สดชื่นได้' ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 1,400 ตู้ ตั้งเป้าปลายปีนี้จะมียอดตู้เพิ่มขึ้นเป็น 1,600 ตู้ เรียกได้ว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถยึดตำแหน่ง ผู้นำ 1 ใน 3 อุตสาหกรรมนี้แน่นอน ซึ่งในรอบสิบปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีใครทลายขึ้นไปได้ ส่วนในปี 62 เราจะมีการอัพเกรด Payment System โดยสามารถจ่ายผ่าน QR Code ไม่ว่าจะเป็น QR Prompt pay รวมถึง Wallet, Alipay, WeChat pay เพื่อรองรับหลากหลายไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าได้อีกด้วย และคาดการณ์จะมียอดตู้ขั้นต่ำ 4,000 ตู้ ซึ่งถ้าทำได้ก็ถือว่านี่แหละคือจุดแข็งของเรา
และอีก 1 บริการที่กำลังเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คือ ธุรกิจระบบศูนย์อาหาร ภายใต้ชื่อ บริษัท สบาย ซิสเต็มส์ แอนด์ เมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ SSM ซึ่งนับว่าเป็นบริษัทน้องใหม่ในกลุ่มของเราทำธุรกิจเกี่ยวกับ 'ระบบจัดการศูนย์อาหาร' ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำในเรื่องการจัดการศูนย์อาหาร กระจายอยู่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์อาหารในเทสโก้ โลตัส ทุกสาขา , ศูนย์อาหารท๊อป ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึง สวนอาหารในสวนน้ำ วานา นาวา ซึ่งระบบจัดการศูนย์อาหารของเรามียอดการใช้งานในศูนย์อาหารรวมกันทุกที่ ณ ปัจจุจันอยู่ที่ 12 ล้านรายการต่อเดือน และในตอนนี้เรากำลังพัฒนาระบบ Payment System ที่มีชื่อว่า All in One ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถจ่ายเงินผ่านบัตรต่าง ๆ ตามไลฟ์สไตล์ อาทิ บัตร Rabbit , Promptpay QR Code , True Money QR , Alipay , WeChat pay รวมถึง บัตร VISA และ MASTERCARD ที่เป็น Pay wave ก็สามารถใช้ได้ จะทำให้ระบบจัดการศูนย์อาหารเป็นระบบจัดการที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย
นอกจากนี้ เติมสบายพลัส ยังใส่ใจสังคม จัดกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง 1.ด้านสถานพยาบาล โดยในปีนี้ทางกลุ่มเติมสบายพลัส ได้จัดทำคลิปวิดีโอรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในชื่อเรื่อง 'ลูกคนใหม่' เพื่อให้เข้าใจถึงความลำบากของผู้ป่วยจิตเวชหลังรับการรักษาจนหายแล้ว กับโครงการ '1 แชร์ 1 บาท' เพื่อสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ สมทบทุนเพื่อมอบโอกาสให้กับผู้ป่วยจิตเวช และต้องการทำให้สถาบันฯมีคนรู้จักมากขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี มียอดแชร์ ยอดไลค์ และมีผู้เข้าชมกว่า 7 ล้านวิว ภายในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์, จัดทำคลิปประชาสัมพันธ์ช่วยเหลือมูลนิธิเพื่อการผ่าตัดหัวใจเด็ก ในโรงพยาบาลราชวิถี มียอดแชร์ ยอดไลค์และผู้เข้าชมกว่า 5 ล้านวิว โดยมูลนิธิฯ ให้การตอบรับถึงกิจกรรมครั้งนี้ว่า เป็นครั้งแรกตั้งแต่จัดตั้งมูลนิธิฯ มาที่มีผู้บริจาคหน้าใหม่เข้ามาติดต่ออย่างถล่มทลาย ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน และก็ทำให้มูลนิธิฯ เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ส่งผลให้เกิดการบริจาคจากผู้ใจบุญหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน นอกจากนี้แล้ว ทางกลุ่มเติมสบายพลัสยังจัดทำโครงการเพื่อช่วยเหลือสังคมอีกมากมาย อาทิ การบริจาคตู้เติมเงิน ให้แก่สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 10 ตู้ โรงพยาบาลราชวิถี 5 ตู้ โดยรายได้ที่เกิดจากการใช้บริการยกให้เป็นรายได้ของหน่วยงานนั้น ๆ เพื่อเป็นการร่วมบริจาคอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
2. ด้านกีฬา ให้การสนับสนุน 2 สโมสร คือสโมสรฟุตบอลจังหวัดสมุทรปราการและสโมสร ฟุตซอลการท่าเรือ ช่วยให้เด็กรุ่นใหม่ หันมาสนใจเรื่องกีฬามากขึ้น มีส่วนร่วมในการช่วยพัฒนาสังคม และยังเป็นการสร้างสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจทางอ้อมอีกด้วย
3. ด้านพระพุทธศาสนา ได้ร่วมสร้างพระประธานในอุโบสถ ณ วัดจำปา พุทธมณฑลสาย 1 หน้าตักกว้าง 9.99 เมตร เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และร่วมทอดกฐินสามัคคีทุกปี
โดยในปี 2562 เราต่อยอดกลยุทธ์ Emotional Marketing การเข้าถึงใจผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงในทุกบริการ, ทุกพื้นที่ และทุกความต้องการ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ทำธุรกิจด้วยความเป็นธรรมและถูกต้อง ซึ่งทุกวันนี้ เติมสบายพลัสสามารถเข้าถึงจำนวนคนมากกว่า 10 ล้านครั้งต่อเดือน อีกทั้งสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด เพื่อเตรียมรุกเข้าตลาดหลักทรัพย์ ตั้งเป้าจำนวนตู้เติมเงินออนไลน์ปี 2562 เพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่า 70,000 ตู้ คาดว่าผลประกอบการของบริษัทฯ ใน ปี 2561 จะสามารถทำกำไรได้ถึง 180-200 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายผลประกอบการใน ปี 2562 จะสามารถสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 40-50% จากปี 61 ดังนั้นเป้าหมายของเติมสบายพลัส คือ มุ่งเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้แพร่หลายที่สุด และนำไปสู่การ ชิงความเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านธุรกิจตู้เติมเงินออนไลน์และธุรกิจตู้กดน้ำอัตโนมัติในอนาคตได้อย่างแน่นอน" นายชูเกียรติ กล่าว