นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ เปิดเผยว่า สต๊อกยางที่รับซื้อมาเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางตามโครงการรัฐบาลช่วงปี 2556-2557 ทั้ง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง และโครงการมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง จากรายงานของผู้รับผิดชอบโกดังจัดเก็บรายงานว่าจำนวนยังอยู่ครบ ซึ่งมีประมาณ 104,000 ตัน แต่คุณภาพยางลดลงตามอายุที่จัดเก็บ ซึ่งรัฐบาลได้มอบนโยบายให้ กยท. หาแนวทางนำยางไปใช้ ขณะนี้จึงกำลังทำแผนการนำยางแผ่นรมควันคงเหลือไปใช้เป็นสาธารณะประโยชน์ เช่น ทำหมวกกันฝนต้นยางให้ชาวสวนยาง สนามฟุตซอล ทำทางเท้า พื้นสนามเด็กเล่น พื้นปูคอกปศุสัตว์ และผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ที่สามารถใช้ยางคงเหลือดังกล่าวได้ หากหน่วยงานใดแจ้งความประสงค์นำผลิตภัณฑ์ยางเหล่านี้ไปใช้และตั้งงบประมาณรองรับก็สามารถดำเนินการได้ทันที
ส่วนมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง รัฐบาลมีความตั้งใจจะช่วยเหลือชาวสวนยางและคนกรีดยางทุกคน แต่เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือชาวสวนยางที่ปลูกยางในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายและขึ้นทะเบียนกับ กยท.เป็นไปตาม พ.ร.บ. การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558โดยปัจจุบันมีเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. จำนวน 1,651,499 ราย แบ่งเป็น เกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิ์ จำนวน 1,054,396 ราย และผู้กรีดยาง304,246 ราย นอกจากนี้ยังมีเกษตรกรที่แจ้งไม่มีเอกสารสิทธิ์กับ กยท. อีก จำนวน 292,857 ราย ซึ่งการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ปลูกยางในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์นี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้ เมื่อกำหนดเป็นนโยบายแล้ว กยท.พร้อมที่จะดำเนินงานอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางกลุ่มดังกล่าวต่อไป