นอกเหนือจากเรื่องของการออกแบบที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักแล้ว เรื่องของการดีไซน์สิ่งก่อสร้างและอาคารให้มีความแปลกใหม่และทันสมัย ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สถาปนิกต่างก็แข่งขันกันดึงดูดให้ผู้คนหันมาสนใจในผลงานของตน อีกทั้งในปัจจุบันก็มีนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างใหม่ๆ โดยเฉพาะในด้านโครงสร้างที่รองรับไอเดียที่ไม่จำกัดในการพัฒนารูปแบบอาคารและสิ่งก่อสร้างไปพร้อมกับความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย
นายชัยเฉลิม บุญญานุวัตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ - การตลาดและการขาย บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 50 ปี ของบริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) และยอดจำหน่ายเหล็กเส้นเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย ทำให้เรารู้และทราบถึงปัญหาของการใช้วัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะการใช้เหล็กซึ่งเป็นฐานรากของการก่อสร้าง จึงสามารถการันตีได้ว่าเรามีความเชี่ยวชาญและเป็นผู้นำเหล็กเส้นก่อสร้างก็ว่าได้ สิ่งก่อสร้างและอาคารต่างๆ ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องคำนึงถึงฐานรากของการก่อสร้างที่มั่นคง แข็งแรง และได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) นอกจากนี้เรายังเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กทรงยาวรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนของการผลิต จึงมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยมั่นคงแข็งแรงได้อย่างแน่นอน เมื่อผนวกเข้ากับความน่าสนใจในดีไซน์ที่ทันสมัยของสิ่งก่อสร้างและอาคารจากฝีมือของสถาปนิกและวิศวกรชั้นแนวหน้าด้วยแล้ว จึงก่อให้เกิดความโดดเด่นเป็นสัญลักษณ์หรือแลนด์มาร์คของประเทศ โดยสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่จะนำเสนอในครั้งนี้มีด้วยกัน 8 แห่ง ได้แก่
อาคารรัฐสภาใหม่
อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ภาพประกอบจากเว็บไซต์ www.parliament.go.th
อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ หรือ "สัปปายะสภาสถาน" เป็นสถาปัตยกรรมที่กำลังจะกลายเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งการออกแบบโครงสร้างอาคารที่มีความสวยงามและแสดงออกถึงความเป็นไทย เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการที่สำคัญซึ่งประกอบไปด้วย ส่วนสภาทั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ ศูนย์ประชุม ห้องสัมมนา สโมสรจัดเลี้ยง ห้องทำงานของ สส. และ สว. อีกด้วย จึงอาจเรียกได้ว่าโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นี้เป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ที่จะเป็นหน้าตาของประเทศชาติในอนาคต การก่อสร้างจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ ตั้งแต่การออกแบบ การเลือกใช้วัสดุโครงสร้างและฐานราก มีการนำเหล็กส่วนหนึ่งของทาทา ทิสคอน เหล็กเส้นข้ออ้อย SD50 มาใช้ ซึ่งช่วยลดปริมาณการใช้เหล็กเสริมโครงสร้างได้มากกว่า 20% แต่สามารถรองรับน้ำหนักได้มากขึ้นด้วย
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2
สิ่งก่อสร้างระดับประเทศ ที่เปรียบเสมือนประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าสู่ประเทศไทย ก็คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่นอกจากจะเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแล้ว ยังมีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย เนื่องจากมีพื้นที่ที่กว้างใหญ่ รองรับเที่ยวบินได้เป็นจำนวนมาก และยังเป็นหนึ่งในท่าอากาศยานที่มีผู้โดยสารมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ภาครัฐกำลังมีแผนการขยายโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 โดยจะมีการพัฒนารันเวย์ให้มีขนาด 4 รันเวย์ ขนานไปกับตัวอาคารผู้โดยสารและสร้างอาคารผู้โดยสารย่อยรอบๆ อาคารผู้โดยสารหลักเพื่อเพิ่มพื้นที่การรองรับผู้โดยสารจำนวน 100 ล้านคน และ 6.4 ล้านตันสำหรับการขนส่งสินค้าต่อปี ถือเป็นอีกหนึ่งเมกะโปรเจกต์ที่มีการวางแผนทั้งกระบวนการตั้งแต่การออกแบบและการใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพ โดยโครงการนี้ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) ได้มีการส่งเหล็กเส้น SD50 ทาทา ทิสคอน ที่รับแรงดึงได้สูง รวมถึงเหล็กเดือย (Dowel Bars) ที่เป็นเหล็กสำหรับต่อยึดคอนกรีต ซึ่งช่วยกระจายแรงจากพื้นคอนกรีตแต่ละแผ่น และช่วยรับน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น ไม่ให้คอนกรีตแผ่นใดแผ่นหนึ่งต้องรับน้ำหนักมากเกินไปจนอาจเกิดความเสียหายได้
ไอคอนสยาม (ICONSIAM)
ICONSIAM ภาพประกอบจากเว็บไซต์ www.bangkok.com
อีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่เหล็กทาทา ทิสคอน ได้เป็นส่วนหนี่งในโครงการก่อสร้างเมกะโปรเจกต์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ก็คือไอคอนสยาม (ICONSIAM) โดยโครงการนี้ มีการใช้บริการเหล็กตัดและดัดสำเร็จรูป (Cut and bend) ในการก่อสร้างซึ่งช่วยประหยัดทั้งในเรื่องของเวลา และประหยัดการใช้เหล็กโดยไม่มีเศษเหล็กเหลือจากการตัดและดัดเองในพื้นที่ก่อสร้าง พร้อมกันนี้ ยังมีการใช้เหล็ก SD50 ซึ่งช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างได้อย่างมาก โครงการเมืองแห่งใหม่ที่รวมศูนย์การค้า ที่พักอาศัยระดับหรู พิพิธภัณฑ์ ลานกิจกรรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ศูนย์การประชุมระดับโลก โรงภาพยนตร์ขนาดยักษ์ และโลกแห่งความสนุกสนานของเด็กและครอบครัว ภายใต้การลงทุนกว่า 54,000 ล้านบาท โดดเด่นทั้งทำเลทองริมแม่น้ำเจ้าพระยา และการออกแบบโครงสร้างอาคารที่สะท้อนความเป็นไทย มีอาคารเล็กๆ หลายอาคารอยู่ภายในอาคารใหญ่ ด้วยกระจกพิเศษจับจีบซ้อนไปมา ส่วนรูปทรงอาคารนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระทงและบายศรี โดยแปลงโฉมเป็นรูปแบบร่วมสมัย เรียกได้ว่าน่าจับตามองอย่างยิ่งในแง่ของการก่อสร้างสถาปัตยกรรมของไทยที่มีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศไทย และเป็นแลนด์มาร์คที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม
โครงการรถไฟฟ้าสีแดงเข้ม ภาพจากเว็บไซต์ www.pptvhd36.com
โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม บางซื่อ – รังสิต เป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมกรุงเทพฯ โซนเหนือและใต้ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน หรือรถไฟชานเมืองสายตะวันออก – ตะวันตก โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2563 ซึ่งจะกลายเป็นระบบขนส่งสาธารณะหลักที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก เนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงจะสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรที่หนาแน่นบนท้องถนนได้ ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้คนหันมาใช้บริการขนส่งมวลชนจำนวนมากอย่างรถไฟฟ้า การมีโครงสร้างที่รองรับทั้งน้ำหนักเสา คาน ราง ชานชาลา รวมทั้งขบวนรถไฟฟ้า จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เหล็กก่อสร้างที่ได้คุณภาพอย่างเหล็กเส้น ทาทา ทิสคอน SD50 ที่รับแรงดึงได้สูงและผ่านการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) มาใช้ในงานโครงสร้างหลัก
โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง บางปะอิน – นครราชสีมา
สำหรับสิ่งก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 หรือมอเตอร์เวย์บางปะอิน – นครราชสีมา ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางสัญจรในเส้นทางสายภาคกลางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกทั้งรองรับการเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีนตอนใต้ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 นี้ถือเป็นอีกหนึ่งโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่ต้องอาศัยการวางแผนอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุนก่อสร้างในทุกกระบวนการตั้งแต่การออกแบบที่ถูกต้องและเลือกวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพ เหล็กก่อสร้างส่วนหนึ่งที่โครงการทางหลวงพิเศษนี้ได้เลือกใช้เป็นเหล็กเส้นก่อสร้าง มอก. ทาทา ทิสคอน ที่ผ่านบริการตัดและดัดสำเร็จรูป (Cut & Bend) ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในส่วนของปริมาณการสั่งซื้อเหล็กไม่ให้เกินปริมาณเหล็กที่ต้องใช้งานจริง อีกทั้งยังช่วยลดค่าตัด ดัด ผูก และทำเกลียวข้อต่อ ค่าขนส่ง รวมทั้งต้นทุนแฝงอื่นๆ เช่น ค่าเช่าพื้นที่เก็บ ค่าจ้างแรงงานในการตัดและดัดเองในพื้นที่ก่อสร้าง นอกจากนั้นยังช่วยลดปริมาณเศษเหล็กที่เหลือทิ้งจากงานก่อสร้าง รวมถึงลดเวลาในการก่อสร้าง ซึ่งนับว่าเป็นการช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างทั้งระบบได้อีกด้วย
โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง – บางแค และช่วงบางซื่อ – ท่าพระ เป็นอีกโครงการหนึ่งของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อรองรับการเดินทางเข้าเขตเมือง และแก้ปัญหาการจราจรที่มุ่งเข้าสู่เขตเมืองอย่างหนาแน่น โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในช่วงหัวลำโพง – บางแค เป็นสายที่ใกล้เปิดบริการมากที่สุด จากการก่อสร้างที่เกือบแล้วเสร็จทั้งหมด โดยมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัยจากโครงการที่ผ่านมาตรฐานการออกแบบ อีกทั้งการเลือกใช้วัสดุเหล็กก่อสร้างที่ได้คุณภาพ ที่ทาง ทาทา ทิสคอนได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเหล็กชั้นคุณภาพอย่าง SD50 ที่สามารถรับแรงดึงได้สูงและสามารถรองรับน้ำหนักของเสา คาน รางรถไฟฟ้า ไปจนถึงขบวนรถไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัยแน่นอน
โครงการโรงไฟฟ้าพลังลม ชัยภูมิ – มุกดาหาร
โครงการโรงไฟฟ้าพลังลม ชัยภูมิ – มุกดาหาร ภาพประกอบจากเว็บไซต์ www.egco.com
โรงไฟฟ้าพลังงานลมถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งก่อสร้างที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในยุคที่การแสวงหาพลังงานทางเลือกเป็นสิ่งที่จำเป็น และพลังงานลมก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ อีกทั้งเป็นพลังงานสะอาดที่มีอยู่ทั่วไป ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมจะต้องคำนึงถึงทั้งในเรื่องทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม รวมทั้งสิ่งก่อสร้าง ทั้งกังหันลม ไปจนถึงโรงผลิตกระแสไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานลม ซึ่งจะต้องผ่านการออกแบบโรงงานตามมาตรฐาน และมีโครงสร้างที่แข็งแรงเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน รวมถึงความปลอดภัยของชุมชนโดยรอบอีกด้วย โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ชัยภูมิ – มุกดาหาร เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่คาดว่าน่าจะใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีการคำนึงถึงการก่อสร้างที่ปลอดภัย มีการเลือกใช้เหล็กคุณภาพสูงของทาทา สตีล โดยเหล็กที่ใช้เป็นเหล็กจากบริการตัดและดัดสำเร็จรูป (Cut & Bend) ซึ่งมีการควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่มีความแม่นยำสูง ทำให้การตัดและดัดได้ตามแบบที่ลูกค้าต้องการซึ่งเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ตลอดจนลดระยะเวลาในการก่อสร้างอีกด้วย
คอนโดต้านแผ่นดินไหว
คอนโดต้านแผ่นดินไหว Keen Condo Sriracha
หลายคนที่มีแผนกำลังจะซื้อคอนโดมิเนียมคงเคยได้ยินคำเตือนว่า "อย่าซื้อเลย ถ้าเกิดแผ่นดินไหวหรือตึกถล่มขึ้นมา จะไม่เหลืออะไรเลยนะ" แน่นอนว่าคำเตือนนี้ทำให้หลายคนต้องคิดแล้วคิดอีกกับการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ แต่จะทำอย่างไร หากไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตจำเป็นที่จะต้องอยู่คอนโดในเมือง เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง สิ่งที่สามารถทำได้ ก็คือ การพิจารณาปัจจัยต่างๆ ให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ นอกจากเรื่องทำเลที่ตั้ง ราคา ความคุ้มค่า สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในคอนโดแล้ว เรื่องความปลอดภัยของโครงสร้างและฐานรากอาคารก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโด ซึ่งในปัจจุบันก็มีนวัตกรรมของเหล็กเส้นก่อสร้างที่เหนียวพิเศษต้านแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว ที่มีคุณสมบัติดัดง่ายด้วยเนื้อเหล็กที่เหนียวมากกว่าเหล็กเส้นทั่วไปถึง 20% ช่วยให้ดัดโค้งได้มากกว่าโดยไม่แตกร้าว มีการยืดตัวได้มากกว่าโครงสร้างเหล็กทั่วไป อีกทั้งยังสามารถที่จะรองรับพลังงานที่อาจจะทำให้โครงสร้างพังทลาย เช่น พลังงานจากแผ่นดินไหว ได้มากกว่าโครงสร้างที่ใช้เหล็กทั่วไปกว่า 25% นอกจากนั้น เหล็กเส้นต้านแผ่นดินไหวของบริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) นี้ ยังมีการควบคุมคุณสมบัติให้สอดคล้องกับเหล็กเส้นเหนียวพิเศษในมาตรฐานสากลอีกด้วย ซึ่งในประเทศไทยก็มีคอนโดมิเนียมที่เลือกใช้เหล็กเส้นเหนียวพิเศษต้านแผ่นดินไหวทาทา ทิสคอน เอส จากบริษัท ทาทา สตีล อาทิ OKA Haus Condo, Keen Condo Sriracha, The Nine Condo และ The Nimman Condominium เป็นต้น
เรื่องความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้งานเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้วัสดุก่อสร้างโครงสร้างหลักและฐานรากจากเหล็กเส้นก่อสร้างที่มีคุณภาพ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโครงการที่อยู่อาศัย การพิจารณาไปถึงโครงสร้างของตัวอาคาร ทั้งด้านการออกแบบ ไปจนถึงวัสดุเหล็กเส้นก่อสร้างที่มีคุณภาพ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง สิ่งก่อสร้างหรืออาคารต่างๆ ที่มีผู้ใช้สอยจำนวนมาก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง ตั้งแต่การออกแบบและเลือกใช้วัสดุในงานโครงสร้างและฐานรากต่างๆ สำหรับโครงการสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ในประเทศไทย ยิ่งจำเป็นต้องมีความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง ตั้งแต่งานโครงสร้างหลักไปจนถึงการตกแต่งอาคารให้มีความสวยงามทันสมัย ทาทา สตีล ในฐานะที่เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กทรงยาวรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความพร้อมที่จะพัฒนาคุณภาพการผลิตเหล็กเส้นก่อสร้างตามมาตรฐานสากล และบริการใหม่ๆ ที่สนับสนุนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของประเทศไทยทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน นายชัยเฉลิม กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ ส่วนสื่อสารและกิจกรรมองค์กร โทรศัพท์ 02-937-1000 หรือเข้าไปที่ www.tatasteelthailand.com
เกี่ยวกับทาทา สตีล (ประเทศไทย)
บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ "TSTH" ประกอบด้วย สามบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท เอ็น.ที.เอส.สตีลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ("NTS") ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี บริษัท เหล็กก่อสร้างสยาม จำกัด ("SCSC") ตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง และบริษัท เหล็กสยาม (2001) จำกัด ("SISCO") ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กทรงยาวรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีกำลังการผลิต เหล็กแท่ง 1.4 ล้านตัน และเหล็กสำเร็จรูป 1.7 ล้านตัน ประกอบด้วย เหล็กเส้นก่อสร้าง เหล็กลวด เหล็กรูปพรรณขนาดเล็ก เหล็กเพลา และเหล็กเส้นตัดและดัดสำเร็จรูป โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายสินค้าทั่วประเทศ รวมถึงส่งออกเหล็กเส้น และเหล็กลวด ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก
รางวัลและความสำเร็จ ในปี 2560 - 2561
บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลบริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (SET Sustainability Awards) ประเภทบริษัทจดทะเบียนด้านความยั่งยืนดีเด่น (Outstanding Sustainability Awards) ประจำปี 2561 และได้รับการประกาศให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี 2560 – 2561 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ "รางวัลรายงานความยั่งยืน ปี 2560" (Sustainability Report Award 2017) ในระดับ "Recognition" จากสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสถาบันไทยพัฒน์
บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัล "ความเป็นเลิศด้าน ICT ประเทศไทย ปี 2560" (Thailand ICT Excellence Award 2017) ประเภทโครงการพัฒนากระบวนการหลักภายใน
บริษัท เอ็น.ที.เอส. สตีลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี 2560 ประเภทการบริหารความปลอดภัย จากนายกรัฐมนตรี
บริษัท เอ็น.ที.เอส. สตีลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เหล็กก่อสร้างสยาม จำกัด ได้รับรางวัลสถานประกอบกิจการต้นแบบดีเด่นด้านความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประจำปี 2560 ระดับประเทศ และบริษัทเหล็กสยาม (2001) จำกัด ได้รับรางวัลในระดับจังหวัด
บริษัท เหล็กก่อสร้างสยาม จำกัด และ บริษัทเหล็กสยาม (2001) จำกัด ได้รับรางวัล CSR – DIW Continuous สองปีติดต่อกัน ปี 2560 – 2561 จากกรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม
บริษัท เอ็น.ที.เอส. สตีลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัล "โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมเหมืองแร่ให้มีมาตรฐานสากลเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคม ปี 2560" จากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม และได้รับรางวัล CSR – DIW ปี 2561 จากกรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม
บริษัท เหล็กก่อสร้างสยาม จำกัด และ บริษัทเหล็กสยาม (2001) จำกัด ได้รับใบประกาศนียบัตรคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)
บริษัท เหล็กสยาม (20010) จำกัด ได้รับรางวัลการจัดการของเสียที่ดีตามหลัก 3Rs ประจำปี 2561 จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม