MVL เป็นโปรโตคอลบล็อกเชนซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนธุรกิจในอุตสาหกรรมด้านการคมนาคมขนส่งโดยเฉพาะ ปัจจุบันมีการใช้โปรโตคอลดังกล่าวกับ TADA ซึ่งเป็นธุรกิจที่ให้บริการแบบร่วมเดินทางหรือ ride hailing ที่มีการนำเอาบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้เข้ากับแพลตฟอร์มเป็นรายแรกในสิงคโปร์ ส่วนโอมิเซะโกเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการชำระเงินบนอีทีเรียม (Ethereum) ทั้งสองมีแผนที่จะนำเทคโนโลยีมาประสานและประยุกต์ใช้ร่วมกันเพื่อพัฒนาเป็น Proof of Concept
การทำ Proof of Concept นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบและยืนยันประสิทธิภาพการทำงานของ OMG Network ซึ่งทาง MVL มีแผนที่จะนำไปใช้เพื่อเป็นระบบฐานข้อมูล สำหรับจัดเก็บข้อมูลสำคัญต่างๆ ของบริการร่วมเดินทาง TADA
บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง MVL และโอมิเซะโก ยังครอบคลุมถึงความร่วมมือด้านการพัฒนาเชิงเทคนิคกันอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการนำบล็อกเชนมาใช้ในธุรกิจของ TADA ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการร่วมเดินทางที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในสิงคโปร์
"เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากกับความร่วมมือในครั้งนี้ เราทั้งสองบริษัทจะสามารถใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญทางด้านบล็อกเชน รวมถึงฐานธุรกิจในประเทศไทยที่มีอยู่ในขณะนี้ได้ เราคาดว่าจะสามารถสร้างกรณีศึกษาจากธุรกิจของ TADA ซึ่งจะอนุญาตการชำระเงินด้วยสกุลดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มโอมิเซะโก" คุณ เคย์ วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MVL กล่าว
"โอมิเซะโกมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับ MVL เพื่อร่วมพัฒนา Proof of Concept สำหรับบริการร่วมเดินทาง TADA เรามีความตั้งใจอยู่เสมอที่จะผลักดันการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนไปใช้กับธุรกิจในปัจจุบันอย่างเป็นรูปธรรมและแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้พัฒนากรณีศึกษา เพื่อสร้างความตระหนักรู้รวมถึงแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีที่โอมิเซะโกกำลังพัฒนาขึ้น และยังจะได้ร่วมงานกับองค์กรที่สนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อส่งมอบความน่าเชื่อถือ ความมั่นคง ความโปร่งใส่ ผ่านโครงสร้างการทำงานแบบ incentive-based ที่จะทำให้เกิดระบบนิเวศน์ที่มีการร่วมจัดเก็บข้อมูลและแชร์ทรัพยากรระหว่างกัน" คุณวรรษา จาติกวณิช กรรมการผู้จัดการของโอมิเซะโกกล่าวเสริม
TADA เป็นธุรกิจรายแรกๆ ของโลกที่มีระบบซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยบล็อกเชนที่เปิดให้บริการแก่มวลชน กล่าวคือบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงและเรียกใช้บริการได้ นอกจากจะช่วยยกระดับการทำงานของระบบและส่งเสริมธุรกิจ TADA ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดแล้ว ความร่วมมือในครั้งนี้ยังเป็นการเปิดทางและช่วยสร้างการยอมรับในผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ ที่อยู่บนบล็อกเชนอีกด้วย