นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) เปิดเผยในการแถลงข่าว "โครงการรณรงค์การใช้ภาชนะหมุนเวียนในเขตอุทยานแห่งชาติ" ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าโครงการนี้เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่จะร่วมกันรณรงค์ปลูกจิตสำนึกและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยว เกิดความรับผิดชอบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ลดการสร้างภาระขยะในแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ ในกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคมเป็นอย่างดี เช่น การร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขับเคลื่อน กลยุทธ์สร้างสรรค์กิจกรรมโครงการ "เที่ยวไทยเท่ ไม่สร้างขยะ ลดโลกเลอะ" เพื่อลดการใช้พลาสติกในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ลดลงร้อยละ 50 ภายในปี 2563 พร้อมๆ กับการมุ่งประชาสัมพันธ์ให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้นักท่องเที่ยวและเจ้าของพื้นที่ได้ตระหนักรู้ถึงปัญหาขยะของแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดจากการทำกิจกรรมทางการท่องเที่ยว ซึ่งมีการให้คำแนะนำในการลดการสร้างขยะ หรือพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use plastics) และการใช้วัสดุสำหรับทดแทนพลาสติก เช่น การใช้ ถุงผ้า, ขวดน้ำพกพา, กล่องข้าวพกพา, หลอดดูดน้ำจากวัสดุธรรมชาติ การใช้ผ้าเช็ดหน้า เป็นต้น
สำหรับวันนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับมอบปิ่นโต จำนวน 500 เถา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ เมลามีนสำหรับใช้ใส่อาหารและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่จาก นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บมจ. ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ เพื่อส่งต่อให้แก่ พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการกระจายนำไปใช้ยังสถานที่ท่องเที่ยว : อุทยานแห่งชาติต่างๆ ภายใต้สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศได้ประกาศงดการนำโฟมและบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง หรือ Single Use Plastic เข้าไปในเขตอุทยาน เนื่องจากโฟมและบรรจุภัณฑ์พลาสติกได้ก่อให้เกิดปริมาณขยะพลาสติกและโฟม มากกว่าปีละ 2 ล้านตัน ขยะพลาสติกถุงหูหิ้วใช้ครั้งเดียวทิ้งถึง 1.2 ล้านตันต่อปี ซึ่งขยะพลาสติกแหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าและสัตว์ป่า ดังนั้น โครงการรณรงค์การใช้ภาชนะหมุนเวียนในเขตอุทยานแห่งชาติ จึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปริมาณขยะพลาสติกและลดการเสียชีวิตของสิ่งมีชีวิตในเขตอุทยานแห่งชาติ และรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวใช้ภาชนะหมุนเวียนในเขตอุทยานเพื่อรักษาระบบนิเวศป่าและชีวิตสัตว์ป่าต่อไป