นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานหอการค้าไทย-จีน กล่าวถึงบทบาทองค์กรที่ก่อตั้ง 108 ปี คือส่งเสริมความร่วมมือการค้าระหว่างไทย-จีนให้มีความใกล้ชิด ยั่งยืนในทุกด้าน ในปีนี้ครบ 40 ปีการปฏิวัติสังคมและวัฒนธรรมประเทศจีน โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ เมด อิน ไชน่า 2025 จะพัฒนาอุตสาหกรรมระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 5G ,นวัตกรรมการเงินแบบใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับรัฐบาลไทยประกาศนโยบายดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งบางกลุ่มก็เป็นอุตสาหกรรมเดียวกับจีน ซึ่งไทยถือข้อได้เปรียบคือมีชาวจีนโพ้นทะเลมากที่สุดในโลก และล้วนเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน ถือเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และพัฒนาบุคลากร เพื่อรับกระแสของการเปลี่ยนแปลงยุคใหม่ของจีนที่กำลังมาถึงได้อย่างทันการณ์
ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงเศรษฐกิจจีนของ China 5.0 เป็นการเปลี่ยนจากการเน้นปริมาณ มาเน้นคุณภาพ เน้นยกระดับเทคโนโลยี ส่งเสริมนวัตกรรม ดังที่จีนขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ Made in China 2025 การพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) ด้วยความเร็วติดจรวด ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาเศรษฐกิจจีนในยุคใหม่ และช่วยประมวลและวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจปริมาณมหาศาลของรัฐบาลเพื่อทราบทิศทางสำหรับวางแผนพัฒนาประเทศได้ ต่อไปจีนจะไม่ใช้ผู้ส่งออกสินค้าคุณภาพต่ำปริมาณมากด้วยราคาถูก แต่จะเป็นผู้ส่งออกสินค้าที่มีนวัตกรรม AI ให้แก่โลก