วันนี้ (28 พฤศจิกายน 2561) ณ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายธัชกรณ์ วชิรมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท เซอร์ทิส จำกัด และ นายชัยวัฒน์ สกาวจิต ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "Smart Energy Platform by ExpresSo x Sertis"
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ ในการกำกับของกระทรวงพลังงาน ดำเนินธุรกิจเพื่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศยาวนานถึง 40 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปตท. ได้ปรับแนวทางการดำเนินงานตามกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความท้าทายต่างๆ อยู่เสมอ โดยในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในการดำเนินธุรกิจ ถือว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการบริหารจัดการพลังงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับโครงการ "Smart Energy Platform by ExpresSo x Sertis" เป็นโครงการใหม่ที่เกิดขึ้นใน ปตท. โดยทีมคนรุ่นใหม่ Express Solution หรือExpresSo ได้ร่วมกับ เซอร์ทิส เพื่อพัฒนาระบบพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) สนับสนุนใช้พลังงานที่หลากหลายอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ ส่งเสริมพลังงานทางเลือกในรูปแบบต่างๆ และสมาร์ทกริด (Smart Grid) เป็นต้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) และปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (Artificial Intelligence – AI) เพื่อให้อาคารเอนโก้ เป็นต้นแบบ Smart City ของกลุ่ม ปตท. สนับสนุนมาตรการส่งเสริมการลงทุนการพัฒนา Smart Cityของประเทศ ช่วยในการพัฒนาเมืองและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีระบบการบริหารจัดการพลังงานอย่างเต็มประสิทธิภาพและเหมาะสมต่อการอยู่อาศัย มีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นสังคมที่มีการพัฒนาอยู่เสมอ ถือเป็นกลไกสำคัญที่สอดรับกับแผนพัฒนาประเทศไปสู่ "ไทยแลนด์ 4.0" ต่อไป
นายธัชกรณ์ วชิรมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท เซอร์ทิส จำกัด เปิดเผยว่า เซอร์ทิส รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าโครงการต้นแบบ Smart City ของกลุ่ม ปตท. สำหรับการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มอัจฉริยะในชื่อ "Smart Energy Platform" นั้น บริษัทฯ ได้ประยุกต์ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เข้ามาช่วยยกระดับการบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management) ที่สนับสนุนให้การดำเนินธุรกรรมต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้โดยปราศจากคนกลางคอยควบคุม เน้นประสิทธิภาพการจัดการข้อมูลที่มีความปลอดภัยและโปร่งใสตลอดการดำเนินงาน โดยผู้ใช้ระบบจะสามารถตรวจสอบข้อมูลตั้งแต่การผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งจากระบบสายส่ง (Grid) และระบบโซลาร์เซลล์ของศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ ไปจนถึงปริมาณการจ่ายกระแสไฟฟ้าสู่หน่วยงานต่างๆ ในปลายทางได้แบบเรียลไทม์
อีกทั้ง Smart Energy Platform ยังมีการผสานปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (Artificial Intelligence – AI) เข้ามาช่วยประมวลผลข้อมูล เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของกลุ่ม ปตท. ให้สามารถเข้าถึงพฤติกรรมและทิศทางการใช้ไฟฟ้า (Load Forecasting) และคาดการณ์ปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้า (Generation Forecasting) จากแหล่งผลิตต่างๆ ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (insight) เพื่อการต่อยอดแผนธุรกิจและเตรียมความพร้อมในการเปิดรับพลังงานทางเลือกรูปแบบใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่การบริหารต้นทุนการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไปในอนาคต
นายชัยวัฒน์ สกาวจิต ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด เปิดเผยว่า ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ หรือ เอนโก้ มีวัตถุประสงค์ให้เป็นศูนย์รวมหน่วยงานธุรกิจด้านพลังงานและมีเป้าหมายที่จะให้เป็นอาคารต้นแบบที่มุ่งเน้นประโยชน์ใช้สอยผสานกับการอนุรักษ์พลังงานและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการพลังงาน ตัวอย่างการลงทุนด้านเทคโนโลยี คือ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เอนโก้เล็งเห็นว่าดิจิทัลแพลตฟอร์มจะต้องเข้ามามีบทบาทในการบริหารจัดการด้านพลังงาน จึงได้วาง เครือข่ายหลักของระบบการเชื่อมต่อข้อมูล (Network Backbone) เตรียมไว้ ทำให้สามารถวัดและจัดเก็บข้อมูลด้านพลังงานผ่านระบบดิจิทัล ซึ่งทำให้โครงการนี้เกิดได้ง่ายขึ้น
"กลุ่ม ปตท. มุ่งมั่นเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคพลังงานสะอาด โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่เข้ามาช่วยให้ธุรกิจทำงานได้ดีขึ้น เร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อร่วมเป็นหนึ่งในฟันเฟืองขับเคลื่อนประเทศให้บรรลุแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และสอดรับกับกระบวนทัศน์ในการพัฒนาประเทศภายใต้ "ประเทศไทย 4.0" ซึ่งจะนำพาเศรษฐกิจให้ก้าวหน้า เป็นประโยชน์ต่อคนไทยทุกภาคส่วน ทั้งระดับชุมชน สังคม และประเทศชาติต่อไป" นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมในตอนท้าย