นายพิชัย อร่ามเจริญ นายกสมาคมอินเตอร์เคอร์ฟัวร์ ประเทศไทย กล่าวว่า "ทางสมาคมได้จัดงานสัมมนาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดย มีช่างผมและผู้ประกอบการธุรกิจเสริมสวยให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นว่าช่างผมและผู้ประกอบการตื่นตัวและให้ความสนใจ ตระหนักต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก จากสภาวะการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อธุรกิจหลายภาคส่วนทั่วโลก แบรนด์หรือบริษัทยักษ์ใหญ่ มีอายุยาวนานหลาย 100 ปี ที่มิอาจต้านกระแสการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ปิดตัวลง หรือเปลี่ยนจากผู้เล่นอันดับหนึ่งแบรนด์ทรงพลัง กลายเป็นแบรนด์หน้าใหม่ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมตอบโจทย์ผู้บริโภค มาเป็นผู้ขับเคลื่อนทรงอิทธิพลแทน ในนามสมาคม ICD ประเทศไทย ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าวและได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมเสริมสวยของไทยที่เป็นผู้ประกอบการ SME และช่างผมกว่า 200,000 ราย และเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สร้างงานและสร้างรายได้ในประเทศไทย เราจึงจัดงานสัมมนาให้ความรู้ในครั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมเสริมสวยไทยอีกด้านหนึ่ง โดยที่ผ่านมาเรามักจะพัฒนาด้านทักษะฝีมือเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจให้อยู่รอดเติบโตได้ในอนาคต"
ด้าน น.ส. นิสากร จึงเจริญธรรม รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม "รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีที่ได้มาร่วมบรรยาย และเห็การพัฒนาของช่างทำผมไทย อย่างที่ทราบกันดีว่าอาชีพทำผมเป็นอาชีพสงวนของคนไทยมายาวนาน การที่จะทำธุรกิจนี้ให้ดีต้องทำด้วยใจและการบริการที่ดี รวมถึงการหมั่นหาความรู้เพื่อพัฒนาฝีมืออยู่เสมอก็จะทำให้ธุรกิจร้านทำผมเติบโตอย่างยั่งยืน และการขึ้นทะเบียนเข้าระบบการเสียภาษีในรูปแบบบริษัทหรือนิติบุคคลจะทำให้รัฐได้เข้าถึงข้อมูลและยังจะได้รับสิทธิต่างๆอีกด้วย"
สำหรับ สมาคมอินเตอร์เคอร์ฟัวร์ ไทยแลนด์ (Intercoiffure Thauland: ICD Thailand) เป็นสมาชิกของสมาคมอินเตอร์เคอร์ฟัวร์ มอนเดล (Intercoiffure Mondial) เป็นสมาคมช่างผมโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ.กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีสมาชิกช่างผมและผู้ประกอบการอยู่ 55 ประเทศ จำนวนกว่า 3,000 คนทั่วโลก และมีอายุยาวนานกว่า 90 ปี ทางสมาคมได้จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาคมเป็นศูนย์รวมของช่างผมผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้จากทั่วโลก สำหรับช่างทำผมผู้ที่ต้องการร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิก สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Intercoiffure Thailand