นายพัฒนพงศ์ ตัณฑ์สมบุญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาสปป.ลาว มีการเติบโตทางเศรษฐกิจในอัตราที่สูงต่อเนื่องแต่การเข้าถึงบริการทางการเงินยังเป็นไปได้ยาก มีประชากรเพียง 26% ของทั้งหมดเท่านั้นที่มีบัญชีธนาคาร เนื่องจากสาขาธนาคารรวมถึงเครื่องเอทีเอ็มมีจำนวนจำกัดและมีกระบวนการเปิดบัญชีธนาคารที่ค่อนข้างยุ่งยาก แต่ประชาชนสปป.ลาวใช้โทรศัพท์มือถือกว่า 91% และเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือสูงถึง 90%
ธนาคารกสิกรไทยในฐานะธนาคารผู้นำด้านดิจิทัล แบงกิ้งของไทย เห็นโอกาสในการให้บริการทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลในสปป.ลาว จึงได้เปิดตัวบริการ "QR KBank" แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันสำหรับคนสปป.ลาว สามารถเปิดใช้บริการได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคาร สามารถเติมเงินเข้าบัญชี โอนเงินระหว่างกัน และใช้ชำระเงินผ่าน QR Code ช่วยลดปัญหาการพกเงินสดเป็นจำนวนมาก เปรียบเสมือนเป็นกระเป๋าสตางค์อัจฉริยะในโทรศัพท์มือถือของทุกคน
นอกจากนี้ธนาคารกสิกรไทยยังมีแอปพลิเคชันซึ่งใช้บริหารจัดการร้านค้า "QR KBank Shop" สำหรับร้านค้ารายย่อยที่มีฟังก์ชั่นรับการชำระเงินผ่าน "QR KBank" ได้อย่างปลอดภัย ลดต้นทุน ความเสี่ยงของการบริหารเงินสดและเงินทอน โดยแอปนี้จะมีการสรุปยอดขายในแต่ละวันทำให้เจ้าของกิจการสามารถวางแผนการการทำธุรกิจได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยได้จับมือกับตลาดหนองจัน หรือ "ตลาดขัวดิน" เริ่มให้บริการ QR KBank กระเป๋าเงินออนไลน์ ในวันที่ 11 ธันวาคม 2561 พร้อมเปิดตัวแคมเปญ"สะดวกคนขาย สบายคนซื้อ รับจ่ายดีเมื่อมี QR KBank" มาใช้เป็นแห่งแรกใน สปป.ลาว ทำให้ตลาดหนองจันเป็นตลาดต้นแบบที่ไม่ต้องใช้เงินสด คาดว่าภายในปี 2562 จะมีปริมาณการทำธุรกรรมผ่าน QR KBank ประมาณ 2 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 36,000 ล้านกีบ หรือประมาณ 115 ล้านบาท
นายวิสิด แสงดาลา ผู้อำนวยการบริษัท เหลียงเฮงการค้า บริการจัดสรรตลาด จำกัด ผู้บริหารตลาดหนองจัน กล่าวเสริมว่า ตลาดหนองจันถือเป็นจุดศูนย์กลางการค้าขายสำคัญของนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นตลาดที่มีการยกระดับและปรับตัวให้เป็นตลาดที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา และเป็นตลาดที่คนสปป.ลาวในเวียงจันทน์และจากต่างแขวงมาจับจ่ายซื้อของกันทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการร้านอาหาร/โรงแรม ร้านค้าปลีก/ค้าส่ง จนไปถึงลูกค้าทั่วไป และมีชื่อเสียงจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติเข้ามาเยี่ยมเยือน ด้วยสินค้าที่หลากหลายมากกว่า 700 ร้าน ทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากกว่า 2,000 คนต่อวัน มีปริมาณการจับจ่ายใช้สอยสะพัดสูงกว่า 3,000 ล้านกีบต่อเดือน นอกจากนี้การนำ QR KBank และ QR KBank Shop มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของตลาด จะเป็นนวัตกรรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ทั้งพ่อค้า แม่ค้า และลูกค้าในการใช้จ่าย ทำการค้ากันได้อย่างคล่องตัวและปลอดภัยมากขึ้น
ในอนาคตธนาคารกสิกรไทยได้มีการวางแผนนำ QR KBank และ QR KBank Shop มาใช้เพื่อยกระดับระบบการชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลของพันธมิตรทางธุรกิจของธนาคาร โดยมีแผนในการให้บริการในต้นปี 2562 นอกจากนี้แล้วยังได้มองถึงความเป็นไปได้ในการขยายฟีเจอร์การให้บริการบน QR KBank ให้สามารถตอบโจทย์ของคนสปป.ลาวได้ครอบคลุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเติมเงินมือถือ การขยายจุดรับชำระค่าสินค้าในรูปแบบอื่น ๆ ให้หลากหลายมากขึ้น รวมทั้งขยายจำนวนช่องทางการนำเงินเข้า-ออกให้ครอบคลุมทั่วถึงเพื่ออำนวยความสะดวกของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากการให้บริการข้างต้นธนาคารกสิกรไทย สปป.ลาวยังมีการให้บริการผลิตภัณฑ์เงินฝาก สินเชื่อ และผลิตภัณฑ์การเงินระหว่างประเทศ (International Trade Product) กับลูกค้าบุคคล และกลุ่มธุรกิจ โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าไทยและลูกค้าท้องถิ่น (สปป.ลาว) ซึ่งมีผลประกอบการที่ดีและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
การเปิดตัว QR KBank ใน สปป.ลาว ของธนาคารกสิกรไทยในครั้งนี้ นับเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญของธนาคารไทย ในการนำเทคโนโลยีมาใช้ยกระดับและขยายขอบเขตการให้บริการของธนาคารในภูมิภาค AEC+3 เพื่อตอบสนองความต้องการและปรับตัวเข้าหาผู้บริโภคยุคดิจิทัลผ่าน Mobile Platform และต่อไปธนาคารมีแผนที่จะนำองค์ความรู้จาก QR KBank ในสปป.ลาวไปปรับใช้และต่อยอด ในการนำ Mobile Platform ไปใช้เป็นต้นแบบธุรกิจของธนาคารในกลุ่มประเทศ CLMVI เพื่อตอกย้ำจุดยืนในฐานะธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ด้วยการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านดิจิทัล แบงกิ้ง ในภูมิภาค AEC+3 อย่างแท้จริง