นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ เปิดเผยว่า กรมศุลกากรเสมือนเป็นหน้าด่านของประเทศ ในการทำธุรกรรมการค้ากับต่างประเทศ เพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกในการนำเข้า-ส่งออกแก่ผู้ประกอบการ ให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันกับการค้าโลกได้ และสนองนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้นำนวัตกรรมต่างๆ มาสนับสนุนการนำเข้า-ส่งออก การชำระค่าภาษีอากร ค่าธรรมเนียม และรายได้ต่างๆ ให้รวดเร็ว และลดต้นทุนของผู้ประกอบการ
โดยกรมศุลกากรมีเป้าหมายก้าวสู่การเป็น Customer 4.0 ด้วยการเปิดกว้าง พร้อมเชื่อมโยงการทำงานกับหน่วยงานอื่นในทุกมิติแบบบูรณาการ เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกรมจัดเก็บภาษีด้วยกัน เพื่อให้มีการบริหารจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อนำไปสู่การบริหารข้อมูลแบบ Big Data และสนับสนุนพันธมิตรศุลกากรให้มีความเข็มแข็ง เพื่อช่วยขับเคลื่อนระบบโลจิสติกส์ของไทยต่อไป
สำหรับความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยในครั้งนี้ เป็นการพัฒนากระบวนการชำระเงินให้กับผู้ประกอบการด้วยบัตร Krungthai Logistics Card ที่ครอบคลุมทุกการชำระเงินในทุกธุรกรรมด้านโลจิสติกส์ ช่วยลดต้นทุนด้านการชำระเงิน ค่าภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าบริการอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม กรมศุลกากรอยู่ระหว่างพัฒนาระบบการชำระเงินผ่านระบบธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ด้วย Bill Payment ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้บริการได้ภายในเดือนมกราคม 2562 เป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถ ชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคาร ทั้ง Internet Banking และ Mobile Banking เคาน์เตอร์ธนาคาร และตัวแทนรับชำระอื่นๆ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน ระยะเวลา ค่าใช้จ่าย และต้นทุน สนองการก้าวสู่สังคมไร้เงินสด ตามนโยบาย Thailand 4.0 ของภาครัฐ
นายผยง ศรีวณิช กล่าวว่า ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐได้ร่วมผลักดันนโยบาย Thailand 4.0 และ National e-Payment รวมทั้งสนับสนุนการเชื่อมโยงกับภูมิภาค เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่ง และโลจิสติกส์ของอาเซียน โดยเฉพาะในอินโดจีน ตลอดจนขับเคลื่อนธุรกิจขนาดกลางและเล็กในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ให้ก้าวสู่ Digital Economy ลดธุรกรรมด้านเงินสดและเช็ค (Cashless Society) โดย Krungthai Logistics Card เป็นบัตรแรก และบัตรเดียวในไทย ที่สามารถใช้ชำระค่าภาษีอากร ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่ครอบคลุมการจ่ายเงินของหน่วยงานกรมศุลกากร สินค้าเข้าและสินค้าออก คาร์โก้ของการบินไทย และ BFS รวมถึงสามารถชำระค่าภาระและค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย และท่าเรือเอกชนผ่านเครื่อง EDC รองรับผู้ประกอบการในกลุ่มโลจิสติกส์ ทั้งผู้ประกอบการไทย และกลุ่มบริษัทข้ามชาติ หรือ Multi-Channel Company (MNC) โดยตั้งเป้าเพิ่มปริมาณธุรกรรมการชำระเงินด้านโลจิสติกส์ขึ้นอีก 30%
"ธนาคารตระหนักถึงความต้องการของลูกค้า โดยออกแบบให้รองรับการชำระเงินของกลุ่มโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมที่สุดในไทย และเพื่อความปลอดภัย บัตร Krungthai Logistics Card ถูกออกแบบให้ใช้สำหรับการชำระเงิน ไม่สามารถทำรายการเบิก-ถอนเงินสดได้ เพื่อให้ผู้ใช้บริการมั่นใจ สะดวก และยกระดับความปลอดภัย ซึ่งผู้ประกอบการสามารถผูกบัตรได้ทั้งบัญชีกระแสรายวัน และบัญชีออมทรัพย์ ได้ไม่จำกัดจำนวนบัญชี สำหรับลูกค้าที่สมัครใช้บริการ ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 มิถุนายน 2562 ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท และฟรีค่าธรรมเนียมรายปี130 บาทในปีแรก นอกจากนี้ ธนาคารอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบเพื่อรับชำระเงิน ด้านโลจิสติกส์อย่างครบวงจรมากขึ้น และในอนาคตผู้ถือบัตร Krungthai Logistics Card จะสามารถขอสินเชื่อโดยไม่ต้องใช้หลักประกันอีกต่อไป"
นายโกมล ศรีบางพลีน้อย ผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ การท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2556 การท่าเรือฯ ธนาคารกรุงไทย และสมาคมชิปปิ้ง ได้ร่วมกันจัดทำบัตรเฉพาะหน่วยงานในการรับชำระเงินในการนำเข้า-ส่งออก โดยได้นำร่องที่ศูนย์บริการรับชำระค่าภาระของท่าเรือกรุงเทพ และวันนี้ทางธนาคารกรุงไทยได้เป็นตัวกลางในขยายความเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ทั้งกรมศุลกากร ท่าเรือเอกชน THAI Cargo และ BFS Cargo ในการร่วมสนับสนุน และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่มโลจิสติกส์ เพื่อช่วยลดต้นทุนทางการเงินการบริหารจัดการเงินสด นับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยมีบริการอย่างครบวงจรมากขึ้น
นายดำรงค์ชัย แสวงเจริญ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI Cargo กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีที่ธนาคารกรุงไทยได้พัฒนาบริการด้านการชำระเงินด้วย บัตร Krungthai Logistics Card ขึ้น นับเป็นความก้าวที่สำคัญในการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของ THAI Cargo ในการชำระค่าธรรมเนียมคลังสินค้าและบริการต่างๆ ได้อย่างมาก ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ THAI Cargo ในการเป็น World Class Cargo Terminal ก้าวสู่การให้บริการแบบระบบดิจิทัลมากขึ้น
นางสาวจุรีรัตน์ สุระเวก ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการคลังสินค้า กล่าวว่า บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจีคาร์โก้ จำกัด ในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เล็งเห็นการขยายตัวของธุรกิจกลุ่มโลจิสติกส์ ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนองนโยบาย Thailand 4.0 ที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจแก่ผู้ประกอบการในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ดังนั้น บริษัทจึงได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยในการรับชำระค่าบริการผ่าน บัตร Krungthai Logistics Card เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบธุรกิจนำเข้า-ส่งออก และช่วยลดภาระความเสี่ยงด้านธุรกรรมผ่านเงินสดและเช็ค
นายยรรยง ตั้งจิตต์กุล นายกสมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย ที่มีสมาชิกกว่า 1,300 รายทั่วประเทศ ที่เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการทั้งนำเข้าและส่งออกผ่านด่านศุลกากร ซึ่งมีภาระและต้นทุนที่เกิดจากการชำระด้วยเงินสดและแคชเชียร์เช็ค ทั้งค่าภาษี ค่าใช้จ่าย และค่าธรรมเนียมต่างๆ ดังนั้น เพื่อช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ จากการรับชำระด้วยเงินสดและเช็คด้วยระบบ e- Payment ทุกรูปแบบนั้น ทางสมาคมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ทางกรมศุลกากรจะเปิดรับชำระค่าภาษีอากรต่าง ด้วยบัตร Krungthai Logistics Cardได้ทุกด่านแล้ว รวมถึง คลังสินค้าของการบินไทย และ BFS ด้วย อย่างไรก็ตาม ซึ่งจะทำให้สมาชิกและตัวแทนได้รับความสะดวก และลดต้นทุนการบริหารจัดการได้เพิ่มขึ้น