“IMX” บริษัทในเครือคิง ไว กรุ๊ป จับมือกระทรวงพาณิชย์ นำสินค้าไทยคุณ ภาพสูงเจาะตลาดจีน ผ่านแพลตฟอร์มการค้าไร้พรมแดนครบวงจร

พฤหัส ๑๓ ธันวาคม ๒๐๑๘ ๑๓:๓๘
บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เมอร์แชนไดส์ เอ็กเชนจ์ แอนด์ เอกซิบิชั่น จำกัด (International Merchandise Exchange & Exhibition) หรือ IMX ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่จากจีน "คิง ไว กรุ๊ป" (King Wai Group) ก่อตั้งโดยดร.คิง ไว ชาน ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อร่วมกันนำเอสเอ็มอีไทยกว่า 48,000 รายบุกตลาดจีนเจาะถึงตัวผู้บริโภคกว่า 1 พันล้านคนผ่านแพลตฟอร์มการค้าไร้พรมแดน (cross-border e-commerce and supply chain platform) ของคิง ไว กรุ๊ป

ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ตามหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ครั้งนี้ จะช่วยให้เอสเอ็มอีไทยสามารถนำสินค้าไปขายผ่านนวัตกรรมโซลูชั่นการค้าระหว่างประเทศที่ IMX ได้นำเอารูปแบบการค้าข้ามพรมแดนครบวงจรที่ประกอบด้วย คลังสินค้า อาคารจัดแสดงสินค้า การบริการที่ท่าเรือ การจัดการพิธีการศุลกากร ช่องทางการขายสินค้าทั้งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ kjt.com และออฟไลน์มารวมไว้ในที่เดียวเพื่อความสะดวก โดยบริษัทฯ มีศูนย์ แสดงและจำหน่ายสินค้าในเมืองใหญ่ทั่วประเทศจีน ได้แก่ เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ เสินเจิ้น และเฉิงตู ทั้งนี้ รัฐบาลเมืองเซี่ยงไฮ้ได้ให้การรับรองศูนย์แสดงสินค้าของบริษัทฯในเมืองเซี่ยงไฮ้ ในฐานะเป็นศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าถาวรที่ครบวงจรและเปิดบริการทุกวัน และด้วยนโยบายส่งเสริมการทำการค้าข้ามพรมแดน รัฐบาลจีนได้ให้การรับรองว่า kjt.com เป็นแพลตฟอร์มการค้าข้ามพรมแดนแบบอีคอมเมิร์ซสำหรับเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้เช่นกัน

แพลตฟอร์มการค้าข้ามพรมแดนที่ครบวงจรของบริษัท IMX ทั้งในรูปอาคารแสดงสินค้าและการค้าออนไลน์ KJT.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำและถือเป็นอีคอมเมิร์ซรายแรกของจีน จะเปิดโอกาสให้สินค้าคุณภาพจากไทยสามารถเข้าถึงประชากรกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วประเทศจีนได้ภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น

นายเฮนรี ชาน รองประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง ไว กรุ๊ป และประธานบริษัท IMX กล่าวว่า "คิง ไว กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์ "Responsibility creates value, mission inspires people" เราจึงให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์โซลูชั่นต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคหรือเจ้าของธุรกิจ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจในประเทศที่เราเปิดดำเนินการอยู่ รวมถึงประเทศไทย"

ทั้งนี้ หลังจากประเทศจีนได้จัดงานมหกรรมสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ (China International Import Export Expo - CIIE) ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้เปิดตลาดรองรับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงกำหนดนโยบายและมาตรการทางภาษีที่เอื้อต่อการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ รวมทั้งนโยบายส่งเสริมการค้าข้ามพรมแดน เช่น การลดประเภทกิจการต้องห้ามในพื้นที่เขตทดลองการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ และการส่งเสริมการทำอี-คอมเมิร์ซ โดยปรับเพดานการซื้อสินค้าจากช่องทางออนไลน์จากเดิม 2,000 หยวนต่อครั้ง เป็น 5,000 หยวนต่อครั้ง

ในงานนี้ศูนย์การแสดงและจำหน่ายสินค้า IMX ของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับและรับรองจากภาครัฐในฐานะอาคารจัดแสดงสินค้าที่ได้สิทธิ์นิทรรศการถาวร 6+365 สามารถจัดแสดงสินค้าต่อเนื่องจากงาน CIIE และยังเป็นศูนย์บริการชาวต่างชาติในพื้นที่ทดลองเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ (Foreigners Service Point of the Shanghai Pilot Free Trade Zone) การยอมรับนี้สะท้อนให้เห็นว่า IMX เป็นแพลตฟอร์มการค้าไร้พรมแดนที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถช่วยให้ผู้ค้าและผู้ผลิตสินค้าคุณภาพสามารถเข้าถึงตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก และได้รับประโยชน์จากนโยบายทางการค้าของจีนได้อย่างเต็มที่

"จากการที่รัฐบาลจีนได้ประกาศนโยบาย Belt & Road Initiative (BRI) และผ่อนปรนกฎระเบียบด้านการนำเข้ามากมาย ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จึงประกาศการคาดการณ์ว่าในอีก 15 ปีข้างหน้า จีนจะนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศรวมมูลค่าราว 30 ล้านล้านดอลล่าร์ (30 trillion) ทำให้เราเชื่อมั่นว่าโอกาสทางการค้าของธุรกิจไทยในตลาดจีนนั้นมีอยู่มหาศาล" นายเฮนรี่กล่าว

นอกจากนี้ นายเฮนรี่ยังกล่าวเสริมว่า สินค้าไทย เป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศจีน "เพราะสินค้าไทยมีคุณภาพสูง เมื่อผนวกจุดแข็งในด้านนี้ เข้ากับแพลตฟอร์มการค้าข้ามพรมแดนและอีคอมเมิร์ซที่ครบวงจรของเรา ตลอดจนนโยบายและมาตรการทางภาษีและการค้าของจีนที่ปรับปรุงใหม่ ผลลัพธ์ที่มีต่อเศรษฐกิจที่เราจะเห็นคือ การขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยนวัตกรรม พัฒนาสู่ไทยแลนด์ 4.0 ผลักดันให้ GDP ของไทยขยายตัว โดยเฉพาะโครงการ IMX ที่เราคิดว่า จะช่วยเร่งอัตราการส่งออกของไทยด้วย ในโอกาสนี้ เราขอขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ของไทย ที่ได้ร่วมมือกับเราสร้างประโยชน์ต่อผู้ประกอบการธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวมของไทยและจีน"

ตามกรอบของหนังสือแสดงเจตจำนงดังกล่าว คิง ไว กรุ๊ป จะนำสินค้าคุณภาพสูงที่ได้รับเครื่องหมายรับรอง Thailand Trust Mark จากรัฐบาลไทย ไปจำหน่ายในประเทศจีน โดยมีกระทรวงพาณิชย์ของไทยเป็นผู้ให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการประสานงานและอำนวยความสะดวก

การนำสินค้าไทยไปจำหน่ายผ่านช่องทางต่างๆ ของ IMX โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ จะเป็นประโยชน์ต่อ SME ของไทยมาก เพราะเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอัตราสูง เนื่องจากประเทศไทยติดอันดับ 2 ของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีระบบเศรษฐกิจที่อาศัยอินเทอร์เน็ตเป็นตัวขับเคลื่อน (Internet Economy) โดยในปี 2561 มูลค่ากิจกรรมทางธุรกิจและเศรษฐกิจที่อาศัยอินเทอร์เน็ตเป็นตัวขับเคลื่อนในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 12,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 394,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 72,000 ล้านดอลล่าร์ของทั้งภูมิภาค ซึ่งในปัจจุบัน กิจกรรมทางธุรกิจและเศรษฐกิจที่อาศัยอินเทอร์เน็ตเป็นตัวขับเคลื่อนคิดเป็นมูลค่า 2.7% ของรายได้ประชาชาติ (GDP) ทั้งหมดของประเทศไทย

นอกจากนี้ IMX ยังจะนำโซลูชั่น FTAX มาใช้ในประเทศไทยเพื่อช่วยให้นักธุรกิจ เจ้าของสินค้า และผู้ซื้อ ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขด้านภาษีต่างๆ และสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเหมาะสมในการกำหนดกลยุทธ์และการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจ

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หนังสือเจตจำนงดังกล่าวจะส่งผลดีด้านการกระตุ้นการจำหน่ายสินค้าจากไทยในประเทศจีน

"IMX มีแพลตฟอร์มการค้าข้ามพรมแดนและอีคอมเมิร์ซที่พร้อมจะช่วยให้เจ้าของธุรกิจและสินค้าของไทยเจาะเข้าตลาดจีนซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของโลก ความร่วมมือในครั้งนี้ ยังจะช่วยโปรโมตสินค้าของไทยที่ได้รับตรา Thailand Trust Mark ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันทั้งประเทศไทยและจีน ยังจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านการค้า และขยายปริมาณการค้าระหว่างกันได้เป็นอย่างดี" นางสาวบรรจงจิตต์กล่าว

การทำหนังสือแสดงเจตจำนงดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่คณะผู้แทนการค้าของไทยได้ไปเยี่ยมชมอาคารแสดงสินค้าและบริการของ IMX ในงาน CIIE ที่เมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และพบว่าสินค้าไทยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สปา และของตกแต่งบ้าน จึงได้มีการหารืออันนำมาสู่ข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้

นอกจากนี้ IMX จะได้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้แก่ภาครัฐของไทย ในด้านการทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม การพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนและซัพพลายเชน รวมทั้งกระชับความสัมพันธ์ระหว่างภาคธุรกิจไทยและจีนอีกด้วย

"ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสที่ดีสำหรับภาคเอกชนทั้งของไทยและจีน และก่อให้เกิดการทำงานร่วมกันที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ" นายเฮนรีกล่าว

ข้อมูลเกี่ยวกับ คิง ไว กรุ๊ป

คิง ไว กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นในฮ่องกงเมื่อ ค.ศ. 1970 โดย ดร. ชาน คิง ไว ต่อมาเมื่อเศรษฐกิจของจีนขยายตัวอย่างมาก รวมทั้งมีการ ปฎิรูปและการเปิดประเทศของจีน คิง ไว กรุ๊ปซึ่งมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล จึงเป็นบริษัทเอกชนจากฮ่องกงที่ขยายการลงทุนเข้าไปในจีนแผ่นดินใหญ่ และได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจีน โดยบริษัทฯ ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบและสร้างแรงบันดาลใจให้คน (Responsibility Creates Value, Mission Inspires People) นอกจากนี้ยังได้มีการขยายธุรกิจออกไปอีกมาก ครอบคลุมหลายประเภท รวมทั้งยังเป็นผู้นำในยุคโลกาภิวัตน์ที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมหลากหลายตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ การเงิน และการค้าข้ามพรมแดนที่ครบวงจรผ่านบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เมอร์แชนไดส์ เอ็กซ์เชนจ์ แอนด์ เอ็กซิบิชั่น หรือ IMX โดยมีฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งในปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย ลุ่มแม่นน้ำแยงซี กวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ภาคตะวันตก ยุโรป และอาเซียน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO