เดินหน้า!!! โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโล หลังคลอดสเปก – ราคากลางก่อสร้างถนนฯ ดัน ใช้น้ำยางจากเกษตรกร – สถาบันเกษตรกรที่ กยท.รับรอง เป็นวัตถุดิบ

จันทร์ ๑๗ ธันวาคม ๒๐๑๘ ๑๒:๓๒
พร้อมเดินหน้าโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร หลังกำหนดคู่มือแนะนำการก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางธรรมชาติ สำหรับถนนท้องถิ่น พร้อมหลักเกณฑ์และราคากลางก่อสร้างฯ เพื่อให้ อปท. ดำเนินการก่อสร้างเองหรือจ้างเหมาก่อสร้าง โดยมีวัตถุดิบเป็นน้ำยางจากบริษัทผู้ผลิต สถาบัน/กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่ กยท. รับรอง

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ด้านอุตสาหกรรมยางและการผลิตยาง เผยว่า โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งโครงการตามนโยบายแก้ปัญหายางพาราของรัฐบาล ขณะนี้พร้อมเดินหน้าดำเนินโครงการอย่างเต็มที่ หลังมี "ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ข้อแนะนำการก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางธรรมชาติ สำหรับงานถนนท้องถิ่น" โดยดำเนินการสร้างถนนด้วยกระบวนการ Mix in Placeใช้รถเกลี่ยดิน (Motor Grader) ซึ่งหน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการก่อสร้างถนนได้ โดยยึดมาตรฐานจากคู่มือแนะนำการก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางธรรมชาติ สำหรับถนนท้องถิ่น และคู่มือการออกแบบส่วนผสม (Job Mix Formula) ที่จัดทำโดยกระทรวงคมนาคม นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางได้มีประกาศการกำหนดหลักเกณฑ์และราคากลางงานก่อสร้างเพื่อใช้ในงานถนนดินซีเมนต์ฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จึงสามารถนำคู่มือ ข้อแนะนำ และราคากลาง ไปดำเนินการก่อสร้างด้วยตนเองหรือจ้างเหมาก่อสร้างได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการ ทั้งนี้ หากมีการสร้างถนนพาราซอยด์ซีเมนต์ อย่างน้อยหมู่บ้านละ 1 กิโลเมตร ทั่วประเทศ จะมีระยะทางรวม 75,032 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้น้ำยางสดในปริมาณ 1,440,614.40 ตัน หรือคิดเป็นน้ำยางข้น 720,320.2 ตัน ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 16,326.9632 ล้านบาท

นายณกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับน้ำยางที่ใช้เป็นวัตถุดิบใช้ในการผสมเป็นน้ำยาง Preblend เพื่อนำมาราดถนนนั้น กำหนดให้บริษัทผู้ผลิตน้ำยางPreblend ที่เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องใช้น้ำยางสดหรือน้ำยางข้นจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) หรือบริษัทผู้ผลิตน้ำยางข้น สถาบัน/กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง ที่ กยท. รับรองเท่านั้น ดังนั้น โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร นอกจากจะช่วยดูดซับน้ำยางออกจากระบบตลาด เพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น และเป็นการพัฒนาคุณภาพถนนและพื้นผิวการจราจรให้มีความทนทานแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๑ Kaspersky รายงานการขโมยข้อมูลธนาคารบนสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปี 2024
๑๗:๐๐ Kaspersky เผย มัลแวร์ขโมยข้อมูลบัตรธนาคาร ปล่อยรั่วไหล 2.3 ล้านใบ
๑๗:๐๐ สมาคมกีฬาเทนนิสสูงอายุไทย ปักหมุด คริสตัล สปอร์ต ทำ Tennis Clinic
๑๖:๔๙ เคพีเอ็น เปิดตัวกองทรัสต์ KPNREIT ปลดล็อกศักยภาพการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ พร้อมกางแผนยกระดับสินทรัพย์และขยายพอร์ตการลงทุน
๑๖:๐๐ โชห่วยยาสูบโอด นายก อิ๊งค์ สั่งปราบบุหรี่ไฟฟ้าแต่ปล่อยบุหรี่เถื่อนเกลื่อนเมือง
๑๖:๐๑ แฟนคลับ เต็มอิ่ม! ใจฟู! กันถ้วนหน้า กับ THEE PAUSE B.O.B Blend Of Brothers Concert ครั้งแรกบนเวทีเดียวกันของ ธีร์ ไชยเดช และ
๑๖:๐๐ EMMA CLINIC เผยศัลยกรรม ทางเลือกเพื่อดึงความมั่นใจด้านความงาม อยากเปลี่ยนชีวิตใหม่ ต้องปั้นความเป๊ะปัง! แบบธรรมชาติ เจ็บน้อย
๑๖:๔๐ OMODA JAECOO พา JAECOO 6 EV คว้ารางวัล BEST OFF ROAD EV ในงาน CAR OF THE YEAR 2025 ประกาศความมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต
๑๖:๓๙ ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย ร่วมส่งเสริมการตรวจคัดกรองวัณโรคในกลุ่มผู้ที่มีเชื้อ HIV ภายใต้แนวคิด กำแพงสังคมที่มองไม่เห็น ด้วยนวัตกรรมชุดตรวจ Urine
๑๖:๐๐ กทม. แจงหลักเกณฑ์ตั้งป้ายรถเมล์ คำนึงถึงความเหมาะสมกายภาพทางเท้า-ความสะดวกประชาชน