ผศ.ดร.นิวัต กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดการอบรมเรื่อง การเสริมสร้างทักษะจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายใน ณ ห้องประชุมชั้น 7 สำนักงานอธิการบดี มรภ.สงขลา เมื่อเร็วๆ นี้ว่า วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริหาร อาจารย์ และบุคลากรมีความรู้ความเข้าใจในการจัดทำแผนการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายใน โดยเชิญ นางวัลนา ภู่สำลี ข้าราชการบำนาญของกรมบัญชีกลาง มาให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากความเสี่ยงถือเป็นสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นและส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายขององค์กร เกิดความเสียหาย ผิดพลาด ฉ้อโกง สูญเปล่า หรือทำให้วัตถุประสงค์ขององค์กรเบี่ยงเบนไป อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อเงิน ทรัพย์สิน ภาพลักษณ์ขององค์กร ขวัญและกำลังใจของบุคลากร ตลอดจนความมั่นคงของประเทศ
นางวริษฐา ตันติพงศ์ หัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายใน มรภ.สงขลา กล่าวว่า เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงในองค์กร แบ่งตามประเภทความเสี่ยง ได้แก่ ด้านทรัพยากร (การเงิน งบประมาณ ระบบเทคโนโลยีสารเสนเทศ อาคารสถานที่) ด้านยุทธศาสตร์หรือกลยุทธ์ของสถาบัน ด้านนโยบาย กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ด้านการปฏิบัติงาน เช่น การบริหารหลักสูตร การบริหารงานวิจัย ระบบงาน ระบบประกันคุณภาพ ด้านบุคลากรและด้านธรรมาภิบาล โดยเฉพาะจรรยาบรรณของอาจารย์และบุคลากร ซึ่งส่วนการควบคุมภายในเป็นกลไกที่จะทำให้หน่วยงานของรัฐบรรลุวัตถุประสงค์ด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้าน ได้แก่ ด้านการดำเนินงาน ด้านการรายงาน และด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ
"การควบคุมภายในเป็นส่วนประกอบที่แทรกอยู่ในการปฏิบัติงานตามปกติ เป็นสิ่งที่ต้องกระทำอย่างเป็นขั้นตอนและต่อเนื่อง ไม่ใช่เป็นผลสุดท้ายของการกระทำ เกิดขึ้นได้โดยบุคลากรของหน่วยงานของรัฐ โดยผู้กำกับดูแล ฝ่ายบริหาร ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ตรวจสอบภายใน เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการทำให้มีการควบคุมภายในเกิดขึ้น โดยสามารถให้ความเชื่อมั่นอย่างสมเหตุสมผลว่าจะบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดหากมีการกำหนดให้เหมาะสมกับโครงสร้างองค์กรและภารกิจของหน่วยงานของรัฐ" นางวริษฐา กล่าว
ด้าน นางวัลนา ภู่สำลี ข้าราชการบำนาญของกรมบัญชีกลาง วิทยากร กล่าวว่า ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารความเสี่ยงทุกประเภทที่อาจจะเกิดขึ้นกับองค์กรอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ จึงต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการบริหารความเสี่ยง 7 ขั้นตอน คือ 1. กำหนดวัตถุประสงค์ 2. ระบุความเสี่ยงและปัจจัยเสี่ยง 3. ประเมินความเสี่ยง 4. ประเมินมาตรการควบคุมความเสี่ยง 5. จัดทำแผนบริหารความเสี่ยง 6. การรายงานและติดตามผล และ 7. การทบทวนการบริหารความเสี่ยง รวมทั้งองค์กรจะต้องมีการกำหนดการควบคุมภายในในแต่ละขั้นตอนของการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง หากมีการกำหนดการควบคุมภายในอย่างเหมาะสม องค์กรก็จะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้น การบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายในขององค์กรจึงมีความสำคัญ และจำเป็นต้องมีการวางแผนและควบคุมให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ หรือหากเกิดความเสียหายก็ต้องน้อยที่สุดหรือไม่เกิดขึ้นเลย