"แม้ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยจะได้เจอกับวิกฤตราคาน้ำมันปาล์มที่ต่ำลง จากปัจจัยหลักคือ ปริมาณปาล์มที่มีมากเกินความต้องการ (over supply) และเรื่องการแบนน้ำมันปาล์มจาก EU แต่บริษัทฯ สามารถรับมือกับวิกฤตดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องของราคา ในทางกลับกันเรามีปริมาณการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น จึงสามารถเห็นรายได้เข้ามาได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้เรามองว่านโยบายการแก้ปัญหาเรื่องราคาน้ำมันปาล์มต่ำของรัฐบาลมีส่วนช่วยชาวสวนและผู้ประกอบการทุกรายได้อย่างดี ทำให้เราผ่านจุดที่ราคาต่ำสุดมาได้ และมองว่าในช่วงเดือนต้นปี 2562 นี้ ราคาปาล์มจะปรับตัวขึ้นเป็นผลดีต่อทุกฝ่ายรวมทั้งบริษัทฯที่จะได้รับออเดอร์มากขึ้น ซึ่งเรามั่นใจว่า ด้วยปริมาณการค้าที่จะได้รับในช่วงต้นปี(หรือ Q1/62) จะทำให้บริษัทฯมีออเดอร์การค้าที่หนาแน่นและมีผลกำไรให้เห็นอย่างแน่นอน"
นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนการเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) โดยการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งที่ 3 หรือ OCEAN-W3 จำนวนไม่เกิน 603,224,519 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วย ต่อ หุ้นสามัญเพิ่มทุน 1 หุ้น และมีราคาการใช้สิทธิ 1 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทฯ จะพิจารณาจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 603,224,519 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท
ทั้งนี้นาง ชัชชญา กล่าวเพิ่มเติมว่า "การออก OCEAN-W3 ของบริษัทฯ ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิฯ มีกำหนดอายุไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิฯ เป็นนโยบายการสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับนักลงทุน เนื่องด้วยเป็นการแปลงสภาพหุ้นในราคาต่ำ ในขณะที่บริษัทกำลังมีพัฒนาการด้านธุรกิจอย่างก้าวกระโดดและชัดเจน เพื่อให้บริษัทล้างขาดทุนสะสมได้หมดและมีกำไรในระยะเวลาที่รวดเร็วที่สุด"
โดยบริษัทฯ ได้ประกาศแจ้งผ่านเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและเว็บไซต์หลักของบริษัทฯแล้ว ถึงการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 ซึ่งจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 15 มกราคม 2562 เวลา 14.00น. ณ โรงแรม เอส ซี ปาร์ค ห้องรัชดาบอลรูม ชั้น 6 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา