Spider-Man: Into the Spider-Verse เป็นโอกาสให้ เอวี อารัด ผู้อำนวยการสร้างเจ้าของรางวัลและผลงานมากมาย ผู้ประสบความสำเร็จมาเนิ่นนานจากการอำนวยการสร้างซีรีส์และภาพยนตร์อนิเมชั่นและไลฟ์แอ็กชั่น รวมถึงภาพยนตร์ Spider-Man หกเรื่องก่อนหน้านี้ เล่าว่า "ทุกคนขยับจากอนิเมชันสู่ไลฟ์แอ็กชัน และเราก็คิดกันว่าเราน่าจะทำอีกแบบ เรามีโอกาสได้นำเสนอสไตล์และศิลปะของหนังสือการ์ตูนที่น่าทึ่งและสร้างหนังสำหรับทุกวัย ไอเดียของความหลากหลายยังเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ สำหรับเราเพราะธีมสำคัญของ Spider-Man คือคนที่อยู่ภายใต้หน้ากากนั้นจะเป็นใครก็ได้ สิ่งที่หน้ากากบอกคือเมื่อคุณสวมมัน คุณก็จะมีหัวใจและจิตวิญญาณของฮีโรครับ"
ผู้อำนวยการสร้าง เอมี ปาสคัล (Spider-Man: Homecoming, The Post) ชี้ให้เห็นว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดโอกาสให้ทีมผู้สร้างนำเสนอซูเปอร์ฮีโรที่คุ้นเคยจากมุมมองใหม่ "เอวีกับฉันต่างก็เห็นพ้องกันว่า ไม่เคยมีหนังอนิเมชันเกี่ยวกับซูเปอร์ฮีโร่คนดังจากหนังสือการ์ตูนเลย" "เราอยากจะสร้างหนังอนิเมชันออริจินอลสำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่สำหรับเด็กเท่านั้น อนิเมชันทำให้เรามีวิธีใหม่ในการล้วงลึกเข้าไปในตัวละครต่างๆ ในแบบที่เราไม่สามารถทำได้ในหนังไลฟ์แอ็กชันก่อนหน้านี้น่ะค่ะ"
ผู้กำกับ "บ็อบ เพอร์ซิเช็ตติ" ที่ควบรวมทั้ง มือเขียนบทและหัวหน้าฝ่ายเรื่องราวของ The Little Prince และ Puss in Boots กล่าว "เราโชคดีที่ได้ทำงานกับเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่นี้ และมีผู้ชมสนใจมากขนาดนี้ครับ เป้าหมายของเราอยู่ที่การขยายสไตล์วิชวลและสีสันที่ใช้ออกไปอีกเพื่อนำเสนอหนังที่อาจจะดูแตกต่างจากหนังอนิเมชั่น CG เรื่องอื่นๆ ที่เราเคยเห็นมาในอดีต หนึ่งในจุดแข็งของการ์ตูนคือมันสามารถรวบประเด็น การเคลื่อนไหวหรือการกระทำที่กระชับ และชัดเจนจริงๆ ได้ภายในภาพๆ เดียว เหล่าบรรดานักวาดภาพและทีมวิชวล เอฟเฟ็กต์ที่ โซนี่ พิคเจอร์ส อิเมจเวิร์คส์ ภายใต้การนำทีมนั้น ได้ทำการทดลองกับสไตล์วิชวลที่น่าตื่นตะลึง อันแสดงความเคารพต่อลุคของหนังสือการ์ตูนวินเทจ" อีกหนึ่ง ผู้กำกับ ปีเตอร์ แรมซีย์ (Rise of the Guardians) ชาวแอฟริกัน/อเมริกันระดับแนวหน้าที่ทำงานในวงการอนิเมชั่นปัจจุบัน อธิบายว่า "แน่นอนว่าการ์ตูนมาร์เวลหลายสิบเรื่องโน้มเอียงไปทางลุคนั้นระหว่างที่เล่าเรื่องราวหนัง แต่ผมคิดไม่ออกเลยว่ามีหนังอนิเมชั่นเรื่องไหนอีกที่ใช้ภาพวิชวลชัดเจนขนาดนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้ชมมีปฏิกิริยาตอบสนองดีเยี่ยมกับเทรลเลอร์ออริจินอลและคลิปของหนังเรื่องนี้จนถึงตอนนี้ครับ จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ การขาดแคลนฮีโร่และตัวละครเอกที่ไม่ใช่คนผิวขาวเป็นเหมือนกำแพงทางจิตใจที่สัมผัสได้สำหรับคนผิวสีครับ ผมเชื่อว่าการแนะนำไมลส์ โมราเลสในฐานะสไปเดอร์-แมนจะเป็นตัวจุดประกายความเปลี่ยนแปลงและเป็นเทรนด์ในการจินตนาการและนำเสนอตัวละครที่ไม่ใช่ผิวขาวและไม่ใช่ผู้ชาย นั่นเป็นเรื่องราวที่เราตั้งใจจะบอกเล่าครับ"
ปิดท้ายด้วย ผู้กำกับและมือเขียนบทร่วม ร็อดนีย์ ร็อธแมน (มือเขียนบท 22 Jump Street) ภาพยนตร์เรื่องนี้มีอะไรหลายอย่างเหมือนกับโปรเจ็กต์ไลฟ์แอ็กชันที่อลังการและสร้างขึ้นอย่างประณีต "ทุกเฟรมจะต้องถูกสร้างขึ้นอย่างระมัดระวัง แนวทางโดยทั่วไปของเราคือการผลักดันทุกแง่มุมของหนังเรื่องนี้ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เราตั้งเป้าที่จะสร้างสิ่งที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่โดยสิ้นเชิงสำหรับผู้ชม ในแง่ของเรื่องราว เช่นเดียวกับนิยายภาพออริจินอล มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ไมลส์ โมราเลส ครอบครัวของเขาและความสัมพันธ์ของพวกเขา เรามีองค์ประกอบที่น่าตื่นเต้นเหล่านี้ของหนังซูเปอร์ฮีโรและตัวละครหลากหลายและความเป็นไปไดที่หลากหลายของจักรวาลต่างๆ แต่หัวใจของหนังเรื่องนี้ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างไมลส์และครอบครัวของเขาครับ"
เมื่อ 3 พลัง รวมกันเป็น 1 กับความแหวก แปลก สดใหม่ ที่แฟนๆจะพลาดไม่ได้
SPIDER-MAN: INTO THE SPIDER-VERSE
เปิดฉายรอบพิเศษ วันที่ 3 – 9 มกราคม 2562 เวลา 14.00 – 17.00 น.
ฉายจริง 10 มกราคม ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น