“SAAM” เผยจอง IPO กระแสตอบรับดี โชว์พื้นฐานแข็งแกร่ง มาร์จิ้นสูง เตรียมพร้อม 7 ม.ค. 2562 เข้าเทรดวันแรกคึกคัก

พฤหัส ๒๗ ธันวาคม ๒๐๑๘ ๑๖:๕๖
"เอสเอเอเอ็ม เอ็นเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์" จองซื้อหุ้น IPO จำนวน 80 ล้านหุ้น นักลงทุนให้การตอบรับดี หลังเปิดจองซื้อ 24-27 ธันวาคม 2561 เนื่องจากมั่นใจโมเดลธุรกิจ รายได้ มั่นคง-กำไร แข็งแกร่ง มีโอกาสเติบโต เชื่อเทรดวันแรก 7 ม.ค. 2562 คึกคัก

นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท เอสเอเอเอ็ม เอ็นเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAAM เปิดเผยว่า SAAM เป็นบริษัทผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอิสระ ซึ่งมีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจมายาวนาน ประกอบกับมีจุดแข็งของพื้นฐานโมเดลธุรกิจที่มีความมั่นคงและแน่นอนของรายได้ระยะยาว (Recurring Income) อัตราการทำกำไรที่โดดเด่นจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และมีโอกาสเติบโตได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ SAAM ถือได้ว่าเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอิสระ บริษัทไทยรายแรกที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีแผนในการขยายธุรกิจพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งจะสร้างการเติบโตในอนาคต โดยบริษัทฯ เตรียมพร้อมเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกในวันที่ 7 มกราคม 2562 ต้อนรับปีใหม่ เชื่อมั่นว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างแน่นอน

"ช่วงที่ผ่านมา SAAM ได้นำเสนอข้อมูลบริษัทอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนให้ความสนใจและมีความเข้าใจในโมเดลธุรกิจของบริษัทฯ และรู้ถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงมองเห็นแนวโน้มการเติบโตจากแผนการขยายธุรกิจในอนาคตที่ชัดเจน การเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 80 ล้านหุ้น ซึ่งกำหนดราคาขายที่ 1.80 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันที่ 24-27 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมานั้น ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ราคาหุ้นที่เสนอขายมีความสอดคล้องกับพื้นฐานและแผนการขยายธุรกิจในอนาคตของบริษัทฯ เมื่อ SAAM เข้าซื้อขายวันแรกจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างแน่นอน" นายชาญชัย กล่าว

ด้านนายพดด้วง คงคามี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอเอเอ็ม เอ็นเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAAM กล่าวอีกว่า การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ได้ให้ความสนใจในการจองซื้อหุ้นของบริษัทฯ ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้หลังหักค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์ จะใช้ 1. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลในประเทศญี่ปุ่นที่อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาจนเป็นโครงการที่พร้อมในการก่อสร้างเพื่อส่งมอบให้แก่ลูกค้า ได้แก่ โครงการ SAAM Oita 01 Biomass Power และโครงการ SAAM Oita 02 Biomass Power ปริมาณกำลังการผลิตติดตั้งโครงการละ 19.9 เมกะวัตต์ (MW) จำนวนไม่เกินโครงการละ 15.0 ล้านบาท ซึ่งเมื่อบริษัทฯ พัฒนาจนเป็นโครงการที่พร้อมในการก่อสร้างตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทฯ จะทำการโอนขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยให้แก่ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าเข้าดำเนินการก่อสร้างและดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าภายใต้บริษัทย่อยดังกล่าวต่อไป 2. ใช้เป็นเงินทุนเพื่อเข้าร่วมลงทุนในบริษัทอื่น ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน จำนวนไม่เกิน 50.0 ล้านบาท 3. ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน จำนวนไม่เกิน 16.0 ล้านบาท ทำให้อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ลดลง จากเดิมที่มี D/E อยู่ที่ 0.84 เท่า ส่งผลให้ฐานะทางการเงินมั่นคงมากยิ่งขึ้น และ 4. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานเพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 36.5 ล้านบาท

สำหรับ SAAM เป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอิสระ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในปัจจุบันได้ดำเนินธุรกิจ แบ่งเป็น ธุรกิจที่ 1 ธุรกิจจัดหาสถานที่ตั้งและให้บริการที่เกี่ยวข้องภายในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดยดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยร่วมกับลูกค้า โดยบริษัทฯ ได้รับค่าตอบแทนจากการให้บริการเป็นรายเดือนภายใต้สัญญาระยะยาว 20 ถึง 25 ปี ซึ่งถือเป็น Passive Incomeจำนวน 17 โครงการ บนพื้นที่กว่า 750 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง เพชรบุรี ลพบุรี อุบลราชธานี และประจวบคีรีขันธ์ ธุรกิจที่ 2 ธุรกิจพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯ ใช้เวลาในการเข้าไปศึกษาและพัฒนาโครงการในประเทศญี่ปุ่นกว่า 2 ปี จนปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับอนุมัติใบสนับสนุนค่าไฟฟ้าในระบบ FiT ที่อัตรารับซื้อที่ 24 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง จำนวน 2 โครงการ ซึ่งเป็นอัตรารับซื้อที่สูง เป็นผลจากการที่บริษัทฯ เข้าไปพัฒนาก่อน ได้แก่ โครงการ SAAM Oita 01 Biomass Power และโครงการ SAAM Oita 02 Biomass Power ปริมาณกำลังการผลิตติดตั้งโครงการละ 19.9 เมกะวัตต์ (MW) และบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลโครงการอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้พัฒนาโครงการผ่านบริษัทย่อย อีกจำนวน 6 บริษัท และธุรกิจที่ 3 ธุรกิจลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดยปัจจุบันเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ภายใต้บริษัทย่อย ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี โดยมีปริมาณพลังงานไฟฟ้าเสนอขายตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 2 เมกะวัตต์ (MW) ในระบบ FiT ที่อัตรารับซื้อ 5.66 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง โดยเริ่ม COD เมื่อเดือนธันวาคม2558

"สำหรับงวด 9 เดือนแรก ปี 2561 ในธุรกิจที่ 1 คิดเป็น 76.5% ของรายได้จากการดำเนินงานทั้งหมดของบริษัทฯ เป็นรายได้ที่มั่งคงและแน่นอนในระยะยาว จากค่าตอบแทนจากการให้บริการที่เรียกเก็บรายเดือนจากลูกค้าตามอายุสัญญาระยะยาว 20 ถึง 25 ปี และธุรกิจของเราไม่ต้องกังวลถึงปัจจัยความเสี่ยงจากการดำเนินงานโรงไฟฟ้า เช่น ปริมาณขายไฟฟ้า หรือประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้า ซึ่งปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามคาดการณ์ แต่บริษัทฯ มีการทำสัญญาระยะยาวที่รับรายได้ในรูปแบบค่าบริการคงที่ทุกเดือนตลอดอายุสัญญา ทำให้บริษัทฯ จะมีผลการดำเนินงานที่มั่นคงและแน่นอนในระยะยาว ส่วนในธุรกิจที่ 3 คิดเป็น 23.5% ของรายได้จากการดำเนินงานทั้งหมดของบริษัทฯ สามารถนำกระแสเงินสดที่ได้รับจากการขายไฟฟ้ามาเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารภายในองค์กร โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น 71.20%-73.30% และอัตรากำไรสุทธิ 25.20%-41.80% โดยธุรกิจที่ 2 ธุรกิจพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อจำหน่าย จะเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคตอันใกล้ การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับกลุ่มบริษัทฯ ในระดับสากล" นายพดด้วง กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ