ล่าสุดตอกย้ำการอนุรักษ์ใช้พลังงานอย่างมีส่วนร่วมด้วยการจัดกิจกรรม "MBK Energy Day 2018" ณ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ภายใต้แนวคิด GO GREEN ประกอบด้วย 3 หัวใจหลัก ได้แก่ Green Energy Green Office และ Green Challenge เพื่อสร้างพฤติกรรมและจิตสำนึกที่ดีเกี่ยวกับการร่วมมือร่วมใจประหยัดพลังงานอย่างจริงจังทั้งภายในองค์กรและผู้ประกอบการร้านค้า
ภายในงานมีการออกบูธให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกเกี่ยวกับการลดใช้พลังงาน แยกขยะ และงดใช้ถุงพลาสติก โดยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง ผู้ผลิตสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ กรีนสไตล์ และ อินโดราม่า พร้อมบรรยายพิเศษเรื่อง Green Energy & Green Office โดยอาจารย์ประชุม คำพุฒ หัวหน้าหน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และพิธีมอบรางวัลให้กับร้านค้าภายในศูนย์ฯที่มีการใช้พลังงานลดลงมากที่สุด ภายใต้โครงการ MBK Energy Award 2018 และ รางวัลให้กับพนักงานผู้ชนะในกิจกรรม Go Green Challenge ซึ่งเปิดโอกาสให้พนักงานของทุกบริษัทในเครือเอ็ม บี เค ได้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์วิธีการแยก ลด หรือ งด เพื่อสิ่งแวดล้อม
นายศตวรรษ หลักแหลม ผู้ช่วยรองกรรมการผู้อำนวยการสายปฏิบัติการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อปลุกจิตสำนึกการอนุรักษ์พลังงานให้กับพนักงานและร้านค้า ตระหนักถึงปัญหาและใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจากการแยกขยะ ลดใช้พลังงาน งดใช้ถุงพลาสติก รวมถึงความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการกระตุ้นให้เกิดกระแสสังคม นำไปสู่การปรับพฤติกรรมและร่วมกันสร้างสังคมสีเขียว (Green Society) ให้เกิดขึ้น
ที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินมาตรการประหยัดพลังงานอย่างต่อเนื่อง อาทิ ปรับปรุงระบบปรับอากาศด้วยการกำหนดมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตน้ำเย็นให้เหมาะสมกับสภาวะการปรับอากาศ และในปี 2562 เตรียมจะเปิดใช้เทคโนโลยีการควบคุมระบบผลิตน้ำเย็นแบบอัตโนมัติ เพื่อสนองนโยบาย Thailand 4.0
สำหรับผู้เช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ได้จัดประกวดลดการใช้พลังงาน MBK Energy Award 2018 และมอบรางวัลให้กับ 21 ร้านค้าที่มีการใช้พลังงานลดลงมากที่สุด รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมให้ชุมชนในเขตปทุมวัน โดยนำองค์ความรู้ด้านการจัดการขยะและน้ำเสีย การจัดการพลังงานที่มีประโยชน์และใช้ได้จริงไปถ่ายทอดให้ชุมชน ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดียิ่งขึ้น
"จากมาตรการอนุรักษ์พลังงานด้วยการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านการใช้พลังงานได้ถึง 1.95 ล้านหน่วย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8.77 ล้านบาท"
อาจารย์ประชุม คำพุฒ หัวหน้าหน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กล่าวว่า การสร้างจิตสำนึกเป็นเรื่องยาก แต่สามารถกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ โดยเริ่มจากบุคลากรส่วนใหญ่ทำเป็นต้นแบบ จากนั้นบุคลากรส่วนน้อยจะเริ่มรู้สึกว่าต้องทำตาม หรือ เริ่มต้นจากออฟฟิศปลูกฝังจิตสำนึกให้กับพนักงานจนปรับพฤติกรรมดูแลทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมไปใช้ที่บ้าน ซึ่งปัจจุบันหลายบริษัทให้ความสำคัญการเปลี่ยนพฤติกรรมในสำนักงาน เพื่อลดการใช้พลังงาน ตามแนวคิดสำนักงานสีเขียวและพลังงานสีเขียวมากขึ้น เพราะช่วยให้บริษัทประหยัดพลังงาน พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีและส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมระดับชาติ นำไปสู่การเป็นประเทศสีเขียว (Green Country)
เมื่อทุกภาคส่วนเกิดการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและใช้พลังงานอย่างมีส่วนร่วมก็จะเป็นการช่วยกันสร้างสังคมอุดมกรีนที่มีการพัฒนาของประเทศอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับการคงอยู่ของทรัพยากรและพลังงานในอนาคต