ถือว่าเป็นอีกรอบที่ตัดสินใจยาก เพราะทั้ง 4 หน้ากากร้องได้ดีจนไม่อยากให้ใครสักคนต้องตกรอบ ประเดิมเวทีที่หน้ากากยักษ์เขียวยักษ์แดง คู่หูหน้ากากที่มาในเพลงภาพจำ เป็นการผสมผสานเสียงร้องและเพลงอย่างลงตัว ต่อด้วย หน้ากากผ้าขาวม้า ครั้งนี้เธอมาพร้อมลีลาชวนโยกในเพลงชีวิตยังคงสวยงาม ส่วนหน้ากากกระติ๊บ มาพร้อมสำเนียงการร้องอีสานผสมแนวแร็ปแบบโดนๆในเพลงทางของฝุ่น เรียกว่าเป็นอีกเวอร์ชั่นที่ไพเราะมาก ก่อนจะปิดท้ายด้วยลีลาน้ำเสียงที่โดดเด่นของหน้ากากตุ๊กตุ๊ก ที่มาในเพลงปิดตาข้างนึง ผสมลูกเอื้อนที่ฟังแล้วสะใจ จัดเต็มทุกหน้ากากจริงๆ ก่อนที่ผลการตัดสินสองหน้ากากที่เข้ารอบต่อไปคือ หน้ากากยักษ์เขียวยักษ์แดง และ หน้ากากตุ๊กตุ๊ก
ซึ่งงานนี้หน้ากากผ้าขาวม้าที่ถูกเปิดก่อนได้บอกว่า "มีความสุขด้วยซ้ำที่ร้องเพลงใต้หน้ากาก เราได้ทำอะไรที่เราไม่เคยทำ คนที่ไม่เจอเราคนที่รักเสียงเราไม่ได้เจอเรานานแล้ว และเวทีนี้เป็นเวทีที่เหมาะสมที่พวกเขาจะเห็นเราในรูปแบบที่เปลี่ยนไปให้หายคิดถึง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรู้สึกว่าการที่ทำให้คนที่รักเสียงศรัณย่าหรือแฟนคลับของศรัณย่าได้หายคิดถึงเราก็มีความสุขแล้ว ความสุขก็คือเราสร้างคุณค่านั้นให้กับคนอื่นไม่ใช่ตัวเรา"
สำหรับหน้ากากกระติ๊บ เจ้าตัวนั้นบอกว่า "ผมดู The Mask Singer อยู่แล้วครับดูมาตลอดตั้งแต่แรกๆเลย ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้มาร่วมรายการนี้ จนมีคำเชิญชวนจากรายการ ตัดสินใจรับทันทีเลยครับเพราะมันเป็นเกียรติมากๆที่ได้มารายการนี้ ที่เป็นหน้ากากกระติ๊บเพราะผมเป็นคนอีสาน เป็นคนหนองคายครับก็เลยหาอะไรที่มันเป็นเกี่ยวกับไทยๆ และก็อีสาน ใกล้ตัวมากๆเลยเพราะเรากินข้าวเหนียวก็เลยเป็นหน้ากากกระติ๊บครับ"
สัปดาห์ถึงเวลาบทสรุปกรุ๊ปไม้ตรีในรอบ FINAL กับ 2 หน้ากาก หน้ากากยักษ์เขียวยักษ์แดง และ หน้ากากตุ๊กตุ๊ก ที่ต้องมาปล่อยของกันบทเวที The Mask Line Thai วันพฤหัสบดีที่ 10 มกรมคา นี้ เวลา 20.05 น. ช่องเวิร์คพอยท์23