“บิ๊กฉัตร” สั่งลุยซื้อเรือ ชง ครม. 22 ม.ค.นี้

ศุกร์ ๐๔ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๕:๑๓
รองนายกฯ ฉัตรชัย เห็นชอบหลักเกณฑ์จ่ายชดเชยการนำเรือประมงออกนอกระบบ เป้าหมายเรือออกนอกระบบล็อตแรก 570 ลำ วงเงิน 600 ล้านบาท เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา 22 ม.ค.นี้

พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ให้ความเห็นชอบการประเมินราคา ตามสภาพเรือประมง กำหนดเกณฑ์การประเมินราคาเรือตามสภาพความเป็นจริงของเรือที่ประสงค์นำออกนอกระบบ ตามที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนเสนอ ซึ่งมีนายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 600 ล้านบาท ในการจ่ายชดเชยการนำเรือประมงออกนอกระบบ จำนวน 570 ลำ ที่แจ้งความประสงค์ไว้กับกรมประมงไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นเรือประมงที่ไม่สามารถออกทำประมง ตั้งแต่เริ่มมีการแก้ไขปัญหาไอยูยูตั้งแต่ปี 2558 เพราะไม่มีใบอนุญาตประมง

สำหรับกระบวนการขั้นตอนการจ่ายชดเชยการนำเรือประมงออกนอกระบบนั้น คณะอนุกรรมการฯ ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 ชุด ได้แก่ 1.คณะทำงานรวบรวมข้อมูลสภาพเรือประมงในพื้นที่ ประจำทั้ง 22 จังหวัดชายทะเล เพื่อทำการประเมินสภาพเรือประมงปี 2558 ตามแบบการประเมินการชดเชยตามสภาพเรือประมง แล้วจัดส่งแบบประเมินพร้อมรูปถ่ายเรือให้คณะทำงานชุดที่ 2 คือ คณะทำงานประเมินราคาตามสภาพเรือประมง เพื่อดำเนินการประเมินค่าชดเชย และคำนวณโดยใช้ราคาอ้างอิงตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2558

ทั้งนี้ คุณสมบัติของเรือและเจ้าของเรือที่จะพิจารณานำเรือออกนอกระบบ ต้องเป็นเรือที่แจ้งความประสงค์จะนำเรือออกนอกระบบตามประกาศคณะทำงานตรวจสอบประวัติความถูกต้อง และคุณสมบัติเรือประมงและเจ้าของเรือ โดยรายชื่อและเจ้าของเรือที่จะได้รับการประเมินต้องเป็นรายชื่อที่ผ่านการพิจารณาของคณะทำงานฯ ด้วยเช่นกัน ส่วนเกณฑ์การประเมินเพื่อรับค่าชดเชยการนำเรือประมงออกนอกระบบนั้น จะประเมินจากโครงสร้างของเรือ 4 ส่วน ได้แก่ 1.เปลือกเรือ 2.พื้นเรือ-ดาดฟ้า 3.กงเรือ-กระดูกงู และ 4.เก๋งเรือ โดยเกณฑ์ให้น้ำหนักคะแนนแต่ละโครงสร้าง พิจารณาจากปริมาณไม้ที่ใช้ในการประกอบเป็นโครงสร้างแต่ละส่วน ประกอบด้วย เปลือกเรือ ร้อยละ 35 พื้นเรือ-ดาดฟ้า ร้อยละ 10 กงเรือ - กระดูกงู ร้อยละ 25 และเก๋งเรือ ร้อยละ 10 โดยประเมินสภาพไม้จากโครงสร้างเรือแต่ละส่วนโดยวิธีการให้คะแนน แบ่งเป็น 4 ระดับ คือ สภาพไม่ดี สภาพพอใช้ สภาพดี และสภาพดีมาก

"การดำเนินการหลังจากคณะทำงานประเมินราคาตามสภาพเรือประมง จัดทำสรุปผลการประเมินราคาเรือเป็นรายลำ และรวบรวมสรุปจำนวนเรือและราคาประเมินทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จะเสนอต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน และเสนอคณะรัฐมนตรี โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 22 มกราคมนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการให้กำลังใจชาวประมงที่ให้ความร่วมมือกับรัฐแก้ปัญหาไอยูยูมาตลอดระยะเวลา 3 ปี ซึ่งคาดว่าเมื่อครม.เห็นชอบแล้ว การจ่ายเงินชดเชยการนำเรือประมงออกนอกระบบจำนวน 570 ลำ จะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และเรือที่เข้าโครงการนำเรือออกนอกระบบครั้งนี้ จะไม่กลับสู่ระบบประมงอีกแล้ว โดยเรือเหล่านี้เจ้าของจะต้องรื้อทำลายทั้งหมด"พลเอกฉัตรชัย กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ