สำหรับการช่วยเหลือ ด้านชลประทาน เร่งระบายน้ำในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 26 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 26เครื่อง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี 3 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 2 เครื่อง ด้านปศุสัตว์ จัดส่งหญ้าพระราชทานจากชัยนาทลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 400 ฟ่อน แจกจ่ายเสบียงสัตว์ 3,000 กิโลกรัม และถุงยังชีพ สัตว์ 436 ชุดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส นครศรีธรรมราช และปัตตานี ด้านประมง เตรียมเรือท้องแบน จำนวน 67 ลำ เพื่อสนับสนนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้ แนวโน้มสถานการณ์ ฝนจะลดลงในช่วงวันที่ 7 ม.ค. 62 แต่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในภาคฝั่งตะวันออก คลื่นลมชายฝั่งแรง และน้ำทะเลหนุนสูง ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม
นอกจากนี้ได้รับรายงานผลกระทบด้านการเกษตรในพื้นที่ แบ่งเป็น ด้านพืช 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราชสงขลา ปัตตานี เกษตรกร 129,073 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 89,969 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 20,406 ไร่ พืชไร่ 4,530 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 65,033 ไร่ ด้านปศุสัตว์ 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เกษตรกร 2,763 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ4,006 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 3,271 ตัว แพะ-แกะ 185 ตัว สัตว์ปีก 550 ตัว ด้านประมง 1 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราชเกษตรกร 5,600 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบ 20,800 ไร่ แบ่งเป็น บ่อปลา 11,600 ไร่ บ่อกุ้ง/ปู/หอย ทะเล9,200 ไร่ ตลอดจนเรือประมงพื้นบ้ทนที่จอดเทียบบริเวณชายหาด ได้รับความเสียหาย จากการเกิดเหตุการณ์คลื่นลมแรง และน้ำขึ้นสูงท่วมชายฝั่ง ตลอดแนวชายฝั่งทะเลจังหวัดระยอง ในพื้นที่อำเภอเมืองระยอง อำเภอบ้านฉาง และอำเภอแกลง รวม 50 ลำ ในขณะนี้หน่วยงานกรมประมง ร่วมบูรณาการตรวจสอบความเสียหาย และจะรายงานให้ทราบเป็นระยะต่อไป