เดล คาร์เนกี เผยผลวิจัยล่าสุด “จุดบอดผู้นำไทยและผู้นำโลก”

จันทร์ ๐๗ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๑:๕๖
เดล คาร์เนกี (ประเทศไทย) ผู้นำด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ด้านการวิจัยภาวะผู้นำ และให้คำปรึกษาทางธุรกิจระดับโลกมากว่า 106 ปี ได้ให้ความสำคัญและตั้งคำถามถึงปัจจัยใดที่ส่งผลต่อระดับศักยภาพของประเทศหรือองค์กร จากหลายงานวิจัยในตลอดร้อยปี และจากผลงานวิจัยล่าสุด "Leadership Blind Spots จุดบอดผู้นำไทยและผู้นำโลก" ที่เกิดจากการสำรวจผู้คน 3,300 คน ใน 4 ทวีป กว่า 14 ประเทศทั่วโลก ที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป ผ่านแบบสอบถามออนไลน์ ค้นพบว่าปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนระดับประเทศหรือองค์กร นั่นคือผู้นำ จากผลวิจัยเผย "4 จุดบอดใหญ่ของผู้นำ" ที่มีผลต่อศักยภาพรวมของทั้งสังคมและองค์กร นั่นคือ การไม่ฟังอย่างตั้งใจ ขาดการชื่นชมอย่างจริงใจ ไม่เสมอต้นเสมอปลาย และไม่ยอมรับผิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดวิกฤติศรัทธา ลดความน่าเชื่อถือและทำลายความจงรักภักดี โดยมีเพียง 17% ของคนทั่วโลกเท่านั้นที่พึงพอใจกับผู้นำในปัจจุบันของตน จากการศึกษาและวิจัยของเดล คาร์เนกี พบว่า ผู้นำที่แก้ไขจุดบอดทั้ง 4 กลับทำให้ความพึงพอใจของผู้อื่นเพิ่มเป็น 36% หรือกว่า 2 เท่า งานวิจัยระบุว่า 4 จุดบอดสำคัญนี้ หากผู้นำตระหนักจะเป็นโอกาสและเป็นหนทางสู่การเป็นสุดยอดผู้นำที่คนทั่วโลกและประเทศไทยต้องการนั่นคือ จริงใจ ยอมรับผิด ชื่นชมและรับฟัง

ดร.ปรียกร มิมะพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ เดล คาร์เนกี (ประเทศไทย) กล่าวว่า "ผู้นำไม่ว่าจะเป็นผู้นำประเทศ ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กรหรือแม้กระทั่งผู้นำครอบครัว ล้วนเป็นบทบาทที่ซับซ้อน และถูกคาดหวังสูง ต้องอาศัยการมีวิสัยทัศน์ การคิดเชิงกลยุทธ์ การมองภาพแบบบูรณาการและความเข้าใจในด้านอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งความสามารถที่กล่าวมาทั้งหมดของผู้นำนี้ไม่ได้เป็นข้อบ่งชี้ว่า หากมีความสามารถด้านใดด้านหนึ่งอย่างโดดเด่นจะทำให้ได้รับความร่วมมือ ความน่าเชื่อถือหรือคะแนนนิยมจากคนหมู่มากได้ ซึ่งงานวิจัยจากเดล คาร์เนกี ล่าสุดระบุว่า พฤติกรรมของผู้นำที่นำไปสู่การได้รับความนิยมและความร่วมมือ ตลอดจนการมีส่วนร่วมของคนในองค์กร ชุมชน หรือแม้แต่ในครอบครัวในระดับสูงได้ผู้นำเหล่านั้นล้วนต้องมีพฤติกรรมใน 4 ข้อต่อไปนี้

1. ผู้นำที่ได้ใจคนหมู่มากต้องให้เกียรติและ ยกย่องชื่นชมผู้อื่นอย่างจริงใจ

85% ของผู้ตอบแบบสอบถามจากทั่วโลก ระบุว่า การเห็นคุณค่าและได้รับการยอมรับจากผู้นำ นำมาซึ่งความต้องการในการทำงานให้ผลงานออกมาดีที่สุด และ 76% ระบุอีกว่า ผู้นำที่กล่าวคำยกย่องชมเชยและยอมรับในคุณค่าและความสามารถอย่างจริงใจ จะเป็นแรงบันดาลใจและแรงผลักดันในการทำงานมากกว่าผู้นำที่มุ่งผลงานเพียงอย่างเดียว ดังนั้น "การมองหาจุดดีและชื่นชมในจุดแข็ง หลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์ ประณามผู้อื่น เป็นพฤติกรรมที่ผู้นำควรปฏิบัติเพื่อให้เกิดการยอมรับและความร่วมมืออย่างแท้จริง ผู้นำที่ทำเช่นนี้ได้จะได้รับการนับถือมากกว่าการใช้วิธีทำลายความน่าเชื่อถือของอีกฝ่าย

2. ผู้นำที่ได้ใจคนหมู่มาก ต้องนำความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน

ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุก ๆ คนไม่เว้นแม้แต่ผู้นำ งานวิจัยจากเดล คาร์เนกี เผยว่า 81% ระบุว่าผู้นำจะเป็นแรงบันดาลใจให้เขาได้เมื่อยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น แม้บางครั้งอาจจะไม่ใช่ความผิดของตนโดยตรงแต่อยู่ในสายบังคับบัญชาหรือองค์กรของตน ซึ่งความจริงใจนี้จะนำมาซึ่งความน่าเชื่อถือ การให้โอกาสและความศรัทธาจากผู้อื่น เดล คาร์เนกี ชี้ว่าเมื่อเกิดความผิดพลาด ผู้นำควรตระหนักได้ว่าเราต้องรับผิดชอบ 100% ยอมรับ เรียนรู้จากความผิดพลาดและนำมาซึ่งการรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

3. ผู้นำที่ได้ใจจากคนหมู่มากต้อง รับฟัง เคารพและเห็นคุณค่า

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงตรัสว่า ผู้นำที่ดีควรเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา ผู้คนในประเทศและในองค์กร ทุกคนล้วนต้องการมีส่วนร่วมกับภารกิจต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากการรับฟังจากผู้นำอย่างเข้าถึงและเข้าใจอย่างแท้จริง งานวิจัยชี้ว่า กว่า 2 ใน 3 ของพฤติกรรมของผู้นำที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจต่อผู้อื่นได้คือ การรับฟังอย่างจริงใจและการเคารพในความแตกต่าง โดยยึดถือในหลักความเท่าเทียมและเป็นธรรม เดล คาร์เนกี แนะว่าการคำนึงถึงส่วนรวมโดยไม่ละเลยกลุ่มคนส่วนน้อย เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและจำเป็นมาก ดังนั้นผู้นำต้องคิดให้รอบด้านและครอบคลุม อาทิ การกำหนดนโยบายด้านใดด้านหนึ่งที่เอื้อประโยชน์กับคนกลุ่มนึง โดยไม่ได้คำนึงถึงกลุ่มอื่น อาจได้ความพอใจจากกลุ่มหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันอาจสร้างความแตกแยกและความเหลื่อมล้ำในสังคมได้

4. ผู้นำที่ดีต้องมีจริยธรรม มีความโปร่งใส ซื่อสัตย์และชัดเจน

ความน่าเชื่อถือเป็นพื้นฐานของทุก ๆ ความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นผู้นำในระดับใด เพราะความน่าเชื่อถือนำมาซึ่งความไว้ใจ การมีส่วนร่วมและความร่วมมือจากผู้อื่น งานวิจัยแบ่งความน่าเชื่อถือเป็น 2 ประเภท คือ ความน่าเชื่อถือภายในและภายนอก ความน่าเชื่อถือที่เกิดจากภายในหมายถึง ทำในสิ่งที่เชื่อ และเชื่อในสิ่งที่ทำ นั่นแสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ไม่ใช่เป็นพวกมือถือสาก ปากถือศีล จากงานวิจัยยังระบุอีกว่ามีเพียง 30% เท่านั้น ที่เชื่อว่าผู้นำของเขาเป็นเช่นนี้ ผู้นำเหล่านี้จะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมและคำพูดที่ขัดต่อความเชื่อที่เค้ามี ส่วนความน่าเชื่อถือภายนอกคือ ผู้นำที่ทำและพูดตามสัญญา จากงานวิจัยระบุไว้เช่นกันว่ามีเพียง 30% เท่านั้น ที่เชื่อว่าผู้นำของตนสามารถรักษาสัญญาและรักษาคำพูด เป็นที่น่าจับตาว่าจากงานวิจัยของ เดล คาร์เนกี ระบุว่าภาคพื้นยุโรป และภาคพื้นสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เป็นกลุ่มประเทศที่ผู้คนเชื่อมั่นในตัวผู้นำและเห็นว่าการกระทำกับคำพูดสอดคล้องกันมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับการจัดอันดับด้านความโปร่งใส ในรายงานสำรวจปัญหาคอรัปชั่นทั่วโลกปี 2560 โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ที่ประเทศ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ และนอร์เวย์ อยู่ในอันดับที่ 2 และ3 ประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่ 8 และ 16 ตามลำดับ ขณะที่ไทยอยู่อันดับ 96

นอกจากนั้นดร.ปรียกร ยังได้แนะเทคนิคเพิ่มเติมว่า ผู้นำที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนและครองใจผู้คนได้ยาวนานคือผู้นำที่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอและเป็นนักเรียนรู้ (Learning Agility and Life Long Learning) ที่พร้อมรับฟังความคิดเห็น รวมไปถึงคำติชมจากผู้อื่น ผู้นำเหล่านั้นต้องไม่ถือตนว่าตัวเองดีตัวเองเก่งแล้ว ซึ่งการคิดเช่นนี้เป็นหลุมพรางในการหยุดพัฒนาตนเองและทำให้ไม่สามารถเข้าใจในบริบทความแตกต่างของผู้คนต่างวัย ต่างชาติพันธ์และต่างความคิดได้ ยุคนี้ไม่ใช่ยุคของ "ปลาใหญ่กินปลาเล็ก" แต่เป็นยุคที่ใครปรับตัวได้ก่อนก็จะอยู่รอด ผู้นำยุคใหม่ก็เช่นเดียวกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๔๕ RML จัด Soft Opening เปิดตัว 'รีว่า ไวบ์' โรงแรมใหม่ไวบ์ดีใกล้ไอคอนสยาม พร้อมเชิญเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ร่วมสร้างสีสัน
๑๐:๓๖ Microchip เร่งความเร็วให้กับ Edge AI แบบเรียลไทม์ด้วย NVIDIA Holoscan PolarFire(R) FPGA Ethernet Sensor
๑๐:๐๓ สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) ซีซั่น 2 ปล่อยตัวอย่างอย่างเป็นทางการ พร้อมโปสเตอร์ใหม่ นับถอยหลังสู่เกมใหม่ เดิมพันใหม่
๑๐:๑๗ RML ลุยขยายพอร์ตเสริมแกร่งระยะยาว เปิด 'โรงแรม รีว่า ไวบ์' ใกล้ไอคอนสยาม ปักหมุดจุดหมายใหม่ของนักเดินทางทั่วโลก
๑๐:๔๘ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร ชวนชิลเทศกาลศิลปินเปิดหมวกกรุงเทพฯ ในงาน Bangkok Street Performer Festival 2024 เสาร์ที่ 30
๑๐:๑๑ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการผ่าตัดรักษาโรคอ้วน โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ประสบความสำเร็จ ในการรักษาโรคอ้วนทุพพลภาพ
๑๐:๐๓ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ จับมือ WeStride เปิดตัว FutureX หลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ออนไลน์ เน้นปั้นวิศวกร IT
๑๐:๒๑ บางจากฯ ผนึกกำลัง สจล. มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล และมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร สร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์
๐๙:๐๗ MBA Online ที่แสตมฟอร์ด เรียนอะไรบ้าง ต่างจาก On-site อย่างไร?
๐๘:๐๐ เอเว็กซ์ พิกเจอร์ส เตรียมถ่ายทอดสดคอนเสิร์ต SEVENTEEN 'RIGHT HERE' WORLD TOUR IN JAPAN: LIVE VIEWING ส่งตรงจากโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น สู่โรงภาพยนตร์ทั่วโลก 14 ธ.ค.นี้