อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวต่อว่า การกำหนดร่างระเบียบดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีและมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ เพื่อให้การบริหารลูกจ้างจากเงินนอกงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและให้การบริหารอัตรากำลังคนของส่วนราชการที่ใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณเป็นไปในแนวทางเดียวกันและเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการจัดประชุมชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยที่กรมบัญชีกลางได้นำข้อเสนอแนะจากการประชุมดังกล่าวมาพิจารณาปรับปรุงและกำหนดเป็นร่างระเบียบฉบับใหม่ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ยกเลิกระเบียบฉบับเดิม (ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2561)
2. ร่างระเบียบฉบับนี้ จะไม่ใช้บังคับแก่ลูกจ้างหรือพนักงานกระทรวงสาธารณสุขของหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ลูกจ้างของกองทุนเงินทุนหมุนเวียน และลูกจ้างที่มีลักษณะเป็นการจ้างเอกชนดำเนินงานของส่วนราชการ
3. กำหนดอัตราค่าจ้าง การจ่ายค่าจ้าง การบริหารงานบุคคล และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจ้างลูกจ้าง
4. สำหรับการจ้างลูกจ้างในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ส่วนราชการหรือมหาวิทยาลัยสามารถจ้างลูกจ้างได้ตามกรอบอัตราและอัตราค่าจ้างเดิมที่แต่ละส่วนราชการอนุมัติไว้ต่อไป และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ให้ส่วนราชการหรือมหาวิทยาลัยยื่นเรื่องขออนุมัติการจ้างให้กรมบัญชีกลางพิจารณาอย่างช้าไม่น้อยกว่า 2 เดือน ก่อนเริ่มต้นปีงบประมาณหรือเริ่มจ้าง ทั้งนี้ ตามแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจ้างลูกจ้างที่กรมบัญชีกลางกำหนด
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวในตอนท้ายว่า ในการประชุมชี้แจง ตอบข้อซักถาม ร่างระเบียบและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจ้างลูกจ้างดังกล่าว ส่วนราชการต่าง ๆ ได้รับทราบและไม่มีข้อทักท้วงใด ๆ ซึ่งกรมบัญชีกลางจะได้เร่งดำเนินการเสนอร่างระเบียบต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาลงนามและประกาศใช้ต่อไป