นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลมีเดียและ Big Data ร่วมกับ บมจ. กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ GPI ผู้นำด้านสื่อยานยนต์และผู้จัดงานมหกรรมแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ "Bangkok International Motor Show" ในฐานะที่เราเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญและดำเนินธุรกิจให้บริการด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่น มากว่า 10 ปี เราจึงพร้อมนำความรู้ เทคนิค เครื่องมือที่เรามี มาช่วยพัฒนาดิจิทัลมีเดีย รวมถึงการจัดการ Big Data เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพฤติกรรมและความสนใจของผู้ที่ใช้รถยนต์ รวมถึงความต้องการของผู้ที่จะเตรียมซื้อรถยนต์ครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศเป็นครั้งแรก
ซึ่งการจับมือร่วมกันในครั้งนี้จะเป็นผลดีของทั้ง 2 ฝ่าย สำหรับกรังด์ปรีซ์ฯ นั้นจะสามารถนำแพลตฟอร์มดิจิทัลมีเดียนี้ ไปใช้พัฒนาบริการให้สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงวัตถุประสงค์มากยิ่งขึ้น ขณะที่ YDM Thailand ก็สามารถขยายการให้บริการด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ไปยังอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ด้วยเช่นกัน จากปัจจุบันที่ให้บริการลูกค้าในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, การเงินการธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
"ในฐานะที่เราเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง มากว่า 10 ปี เราเห็นว่า การพัฒนาสื่อดิจิทัล มีเดียที่ถูกต้อง และ การเตรียมทำ Big Data อย่างเป็นระบบเพื่อใช้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคนั้น มีความสำคัญต่อการทำธุรกิจและการตลาดในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้บริโภคนิยมใช้สื่อดิจิทัลเป็นหลัก ทำให้เราสามารถทราบความสนใจในทุกขั้นตอนของพฤติกรรมการซื้อและการตัดสินใจของผู้บริโภค สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของฐานข้อมูลเป็นจำนวนมาก หากเราสามารถจัดเก็บให้เป็นระบบและนำข้อมูลมาผ่านกระบวนการการวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถใช้วางแผนการตลาดออนไลน์-ออฟไลน์ แบบครบวงจรเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมมากยิ่ง" นายธนพล กล่าว
ซีอีโอ YDM Thailand ยังกล่าวต่ออีกว่า "ความร่วมมือในครังนี้จะเป็นการสร้างปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ในบ้านเราและระดับภูมิภาคเอเชีย เนื่องจาก YDM Thailand เรามีผู้ร่วมทุนเป็นยักษ์ใหญ่ระดับยูนิคอร์นจากเกาหลีใต้ คือ Yello Digital Marketing (หรือ YDM) รวมถึง 3 ผู้ร่วมทุนใหม่ในปีนี้ ได้แก่ อินทัช ธนาคารออมสิน และ SET ที่จะมาช่วยเสริมความแกร่งด้านเงินทุน คอนเนคชั่น และเทคโนโลยี ซึ่งเรามั่นใจว่าเราจะเป็นผู้นำกลุ่มบริษัทดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง อันดับหนึ่งของประเทศ และ มีแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี พ.ศ. 2563 ขณะที่ กรังด์ปรีซ์ เองก็เป็นบริษัทมหาชนยักษ์ใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสื่อยานยนต์ และการจัดงานแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศอยู่แล้ว เราจึงมั่นใจว่าความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายในครั้งนี้จะต้องไม่ธรรมดาและน่าจับตามองอย่างแน่นอน เพราะทำให้เรามีทั้งสื่อออนไลน์และสื่อออฟไลน์ที่มีประสิทธิภาพมาผสมผสานกัน ทำให้การตลาดรถยนต์แบบเดิมๆ ที่เน้นแต่ออฟไลน์อย่างเดียว หรือออนไลน์อย่างเดียว อาจจะไม่ใช่ช่องทางที่เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันอีกต่อไป เราต้องเริ่มเก็บข้อมูลเชิงพฤติกรรมตั้งแต่ on ground ไปจนถึง online และท้ายที่สุดเราจะกลายเป็นผู้ที่มี Data ที่ใหญ่ที่สุดเจ้าแรกในเรื่องการตลาดรถยนต์ ซึ่งเป็นการทำการตลาดสมัยใหม่ โดยที่ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณแบบ Mass Communication เหมือนในสมัยก่อน
ด้าน ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เราร่วมมือกับ YDM Thailand พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลมีเดียเพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจในยุคดิจิทัล และเตรียมนำ Big Data มาวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าที่ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับยานยนต์อย่างเป็นระบบ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มานำเสนอการใช้สื่อให้แก่ค่ายผู้ผลิตยานยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาแอพพลิเคชั่นบน Smartphone เพื่อเป็นช่องทางการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์อีกด้วย ซึ่งการมีพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง เช่นนี้ จะช่วยทำให้กรังด์ปรีซ์สามารถทำการตลาดที่ตอบโจทย์ในยุคดิจิทัลได้อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น"