นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี ในฐานะรองโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ได้ดำเนินงานตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และจูงใจผู้ที่อยู่นอกระบบให้เข้ามาสู่ระบบภาษี ซึ่งที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตโดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ชุดเฉพาะกิจจากสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต ตามพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าอาจมีการกระทำผิด เพื่อสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการ ที่เสียภาษีโดยสุจริต และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค ให้บริโภคสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากการบริโภคสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษีจะเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าสินค้าโดยทั่วไป
จากผลการตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศ ปีงบประมาณ 2562 (ระหว่างวันที่ 4 – 10 มกราคม 2562) พบว่ามีการกระทำผิด จำนวน 657 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 10.91 ล้านบาท โดยแยกเป็น - สุรา จำนวน 417 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 4.30 ล้านบาท
- ยาสูบ จำนวน 152 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 2.77 ล้านบาท
- ไพ่ จำนวน 9 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 0.08 ล้านบาท
- น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 27 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 1.92 ล้านบาท
- น้ำหอม จำนวน 1 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 0.04 ล้านบาท
- รถจักรยานยนต์ จำนวน 38 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ จำนวน 0.69 ล้านบาท
- สินค้าอื่น ๆ จำนวน 13 คดี รวมเป็นเงินค่าปรับ 1.11 ล้านบาท
โดยมีของกลางแยกเป็นน้ำสุรา จำนวน 3,500.845 ลิตร ยาสูบ จำนวน 5,235 ซอง ไพ่ จำนวน 362 สำรับ น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 63,885.00 ลิตร น้ำหอม จำนวน 64 ขวด รถจักรยานยนต์ จำนวน 35 คัน
"หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ Call center 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ www.excise.go.th ซึ่งกรมสรรพสามิตจะปกปิดข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ และจะมอบสินบนนำจับให้ ภายหลังจากคดีเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว"