จอย นุชพัชร กล่าวว่า "จอยในฐานะที่เป็นโปรดิวเซอร์และนักแสดงของหนังเรื่องอยากจะบอกว่า มันว้าว! มาก หนังเพิ่งเข้าวันแรก และรอบแรก ๆ อย่าง ช่วง 11.00 น. และ 13.30 น. เราคิดว่าไม่น่าจะมีคนดู แต่ปรากฏว่า คนดูเกือบเต็มโรง อย่างโรงภาพยนตร์ละแวก แคลาย,พระราม 2,พระราม 3 และ ชลบุรี เหลือแค่ไม่ถึง 10 ที่นั่ง โรงหนังที่ จ.ตรัง เหลือแค่ 1 ที่นั่งเอง ขนาดที่นั่งติดหน้าจอยังไม่เหลือ จอยให้เช็คเกอร์โรงหนังช่วยเช็คเลยว่าคนดูเต็มจริงหรือเปล่า ก็เต็มจริง ๆ ค่ะ วันเดียวเฉพาะใน กทม.และ ปริมณฑล กวาดรายได้ไป 3 ล้านแล้ว จากตอนแรกทางโรงภาพยนตร์ให้โรงเข้าฉายจำกัด รอบค่อยข้างจะห่าง กลายเป็นว่าตอนนี้เค้าเพิ่มให้เราเป็น โลเกชั่นละ 8-9 รอบแล้วค่ะ ถามว่าเพราะอะไร "แช่ง" ถึงฟีดแบ็คดีแบบนี้ จอยก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเราก็ไม่ได้โปรโมทในสื่อที่แมสมาก แต่คิดว่าพอหนังดีคนก็น่าจะบอกต่อกันเรื่อย ๆ ปากต่อปากค่ะ"
หน่อง ธนา เผยว่า "วันที่เปิดตัวหนัง ผมเข้าช้าไป 10 นาทีเลยดูไม่ทัน เมื่อวานผมไปดูหนังที่ "เทอร์มินอล 21" มา ผมเห็นผังจองตั๋วคนจองเกินครึ่งหนึ่ง ผมยังตกใจเลยว่าทำไมคนดูเยอะ ทั้ง ๆ ที่เป็นตอนบ่าย ๆ นะ เท่าที่ทราบวันนี้ทางโรงภาพยนตร์เพิ่มรอบให้หนังเรื่องนี้เป็น 2 เท่าเลย ตอนแรกผมไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่ผมเชื่อว่า นอกจากหนังจะมีเนื้อหาดีแล้ว นักแสดงอย่าง พี่เดวิด อัศวนนท์ และ พี่ชิน ชินวุฒิ เค้ามีเสน่ห์ทางการแสดงมาก ผมดูแล้วยังชอบเลย ล่าสุดได้อ่านรีวิว คนก็จะพูดถึงตอน "วิปลาส" ของพี่เดวิดเยอะมาก ซึ่งตัวผมเองก็ชอบตอนนี้นะ ทุกอย่างมันลงตัวหมดเลยครับ ยังคิดอยู่เลยว่าตอน "วิปลาส" สามารถไปขยายความเป็นหนังเรื่องหนึ่งได้เลย"
ฟาก ชิน ชินวุฒิ กล่าวว่า "ตอนแรกที่ได้รับข่าวจาก พี่จอย นุชพัชร โปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องนี้ ผมตื่นเต้นมาก ผมไม่ได้เล่นหนังมา 5-6 ปีแล้ว พอกลับมาเล่นอีกครั้งแล้วเปิดตัวแรงแบบนี้ ผมดีใจเลย ผมคิดว่าด้วยความที่หนังมีเนื้อหา 3 ตอน ได้แก่ วิปลาส,แทททู และ คำแช่ง แต่ละตอนมันเกี่ยวข้องกับ "คำพูด" ของคน สิ่งที่ผู้กำกับ พี่จิต สื่อออกมาเค้าดึงเรื่องใกล้ตัวของคนมาเล่น คือ การแช่ง เพราะคนเราเอะอะไม่พอใจก็ด่าทอเผลอแช่งคนที่ตัวเองไม่ชอบไป แต่ขณะเดียวกันตอนจบก็ให้ข้อคิดกับคนดูว่า คนเราจะทำอะไรก็ต้องระวังคำพูดให้ดีครับ"