ปิดรับเข้าร่วมโครงการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา

จันทร์ ๒๑ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๖:๑๗
เกษตรฯ เผย โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ชี้เกษตรกรให้ความสนใจตอบรับเข้าร่วมปลูกข้าวโพดเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ภายหลังภาครัฐและเอกชนระดมความร่วมมือ ทั้งการเตรียมถ่ายทอดองค์ความรู้ ให้ได้ผลผลิตคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นด้านตลาดและราคา

นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยถึงความสำเร็จตามแผนบริหารโครงการสานพลังประชารัฐสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาว่า ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการฯ หน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย กรมส่งเสริมการเกษตร กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และหน่วยงานภาคเอกชน ประกอบด้วย สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ได้ประสานความร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนโครงการฯนี้ให้เป็นไปตามแนวทางที่วางไว้

โดยในวันที่ 15 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการเกษตรได้ปิดระบบรับสมัครเกษตรผู้เข้าร่วมโครงการสานพลังประชารัฐสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาแล้ว ฯ 127,316 ราย จำนวน 1,083,156 ไร่ สมัครแล้ว 96,730 ราย จำนวน 815,206 ไร่ และมีเกษตรกรแจ้งความต้องการสินเชื่อเพื่อการลงทุนแล้ว 5 หมื่นราย (ข้อมูล ณ วันที่16 มกราคม 2562)โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) จะไม่มีการนำสินเชื่อค้างชำระของเกษตรกรมาเป็นเงื่อนไขในการพิจารณาการกู้ยืมเงิน

กรมส่งเสริมการเกษตรได้เริ่มดำเนินการตามกระบวนการ ตั้งแต่การประชาสัมพันธ์เชิญชวนเกษตรกรและองค์กรต่างๆ สำรวจพื้นที่ วิเคราะห์ ตรวจสอบ คัดเลือก รับสมัคร ถ่ายทอดความรู้ ทั้งด้านการแนะนำพันธุ์ปลูกให้เหมาะสมในแต่ละสภาพพื้นที่ การหว่านไถ การบำรุงดูแลต้นพันธ์ ตั้งแต่เริ่มการเพาะปลูก ไปจนถึงวิธีการเก็บเกี่ยวอย่างถูกวิธี ให้ได้คุณภาพ ด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการปลูกที่ทันสมัย จนถึงขณะนี้ การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของโครงการ อยู่ในระยะการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ดำเนินการจัดงานวันสาธิตและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูการทำนา ขึ้นเมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีกำไร เฉลี่ยเมื่อหักต้นทุนแล้วไม่ต่ำกว่า 4,000 บาทต่อไร่ เมื่อเทียบกับการทำนาปรัง โดยหลังจากหักต้นทุนแล้วจะเหลือกำไรสูงสุดเพียง 600 – 1,000 บาทต่อไร่เท่านั้น

สำหรับการรับซื้อผลผลิตนั้น ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์และภาคเอกชน ได้เปิดจุดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรโดยตรงในทุกอำเภอที่มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ มีสหกรณ์การเกษตรสนับสนุนเปิดจุดรับซื้อ 292 จุด และเอกชนอีก 32 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 386 อำเภอ ใน 37 จังหวัด ขณะนี้ ราคาเฉลี่ยของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ความชื้น 14.5 % อยู่ที่ 8.29 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรพึงพอใจ ลดทอนตามชั้นคุณภาพและระยะทางอย่างเป็นธรรมแก่เกษตรกร โดยกำหนดมาตรฐานในการรับซื้อเดียวกัน ซึ่งมีตารางหักความชื้นของกระทรวงพาณิชย์เป็นเกณฑ์

จากความสำเร็จในครั้งนี้ จึงถือได้ว่าโครงการสานพลังประชารัฐสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา เป็นการปฏิรูปภาคการเกษตรโดยการปรับปรุงโครงสร้างการผลิต ปรับปรุงขั้นตอนวิธีการทำงานของหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งผลต่อการสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกรได้อย่างแท้จริง ก่อให้เกิดอาชีพที่มั่นคง ส่งผลให้ผลผลิตมีความสอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ เกิดเสถียรภาพในการผลิตสินค้า และลดการพึ่งพาจากภายนอกประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO