เทเวศประกันภัย ส่งเสริมกิจกรรมนอกห้องเรียน “เด็กพิเศษ”เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้น

จันทร์ ๒๑ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๗:๔๖
ห้องเรียนของเด็กๆ ในยุคสมัยใหม่ อาจจะไม่ใช่แค่ห้องสี่เหลี่ยมๆ ที่มีโต๊ะเรียน กระดานดำ และคุณครู หรือไม่ใช่การท่องจำความรู้แค่ในตำรา แต่เป็นห้องเรียนแห่งการเรียนรู้นอกสถานที่ ที่จะสร้างประสบการณ์ บทเรียนที่แปลกใหม่แก่เด็ก ๆ ซึ่งรวมถึงเด็กที่มีความต้องการพิเศษที่การเรียนรู้นอกห้องเรียนก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน

นางภาวิณี ทิพย์เพชร ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกรรมการและสื่อสารองค์กร บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา เทเวศประกันภัยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กที่มีความต้องการพิเศษโรงเรียนวัดมหาธาตุ ด้วยการบำบัด ฟื้นฟู และพัฒนาศักยภาพของเด็ก ๆ ภายใต้ "โครงการพัฒนาบุคคลที่มีความต้องการพิเศษ" ผ่านการจัดกิจกรรม ต่าง ๆ ล่าสุด ได้จัดการศึกษาเรียนรู้นอกสถานที่ ภายใต้กิจกรรม "พาน้องเที่ยว เสริมการเรียนรู้ สู่การพัฒนา ปีที่ 7" โดยนำนักเรียนในห้องเรียนการศึกษาพิเศษ โรงเรียนวัดมหาธาตุ เดินทางสู่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ เพื่อศึกษาเรียนรู้แนวคิดหลักเศรษฐกิจพอเพียงและหลักการทรงงานอันทรงคุณค่าของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่นำมาปรับใช้กับพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยังเป็นการเสริมทักษะการเรียนรู้นอกเหนือจากการเรียนในห้องเรียน เสริมสร้างพัฒนาการด้านความจำและความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงพัฒนาการด้านอารมณ์ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นของเด็ก ๆ อันจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพของนักเรียนห้องการศึกษาพิเศษ

ในการเรียนรู้นอกห้องเรียนของเด็ก ๆ ในวันนี้ เริ่มจากการนั่งฟังประวัติความเป็นมาของศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ ซึ่งน้อง ๆ มีความตั้งใจในการฟังและตอบคำถามของพี่ ๆ วิทยากรได้เป็นอย่างดี และร่วมกันสานปลาตะเพียนกับผู้ปกครอง ซึ่งการสานปลาตะเพียนนั้นจะช่วยในเรื่องของการฝึกพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กของน้อง ๆ และช่วยฝึกสมาธิให้จดจ่ออยู่กับขั้นตอนในการสานปลาตะเพียน หลังจากนั้น น้อง ๆ จะเดินไปสู่ฐานต่าง ๆ ที่ทางศูนย์เรียนรู้ฯ ได้จัดเตรียมไว้ ฐานที่ 1 มีชื่อเรียกว่า ป.ปลาตากลม ให้น้อง ๆได้รู้จักที่มาของปลานิลและปลาทับทิม พร้อมทั้งให้อาหารปลา ฐานที่ 2 แม่ไก่ตัวโต ซึ่งฐานนี้น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เรื่องไก่ไข่ และฐานที่ 3 เด็กเลี้ยงแพะ ทั้ง 2 ฐานนี้ น้อง ๆ จะได้อุ้มได้สัมผัสกับตัวไก่ไข่ และแพะ ทำให้น้อง ๆรู้สึกสนุกสนาน ได้สัมผัสกับสัตว์โดยที่น้อง ๆ ก้าวผ่านความกลัวที่เกิดขึ้นได้ ท่ามกลางรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ฐานที่ 4 อาหารบ้านของพ่อ ฐานนี้จะฝึกให้น้อง ๆ ได้ลองทำอาหารง่าย ๆ คือ ยำไข่ดาว เพื่อให้น้อง ๆ ได้นำกลับไปใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งทุกคนก็ทำกันได้ดี และลองชิมฝีมือของตัวเอง ฐานสุดท้าย คือฐานต้นไม้วิเศษ ฝึกให้น้อง ๆ ได้ลองปลูกต้นไม้เล็ก ๆ ในกระถางต้นไม้ เด็กทุกคนดูมีความตั้งใจในการตักดิน นำต้นไม้มาใส่ในกระถาง และปลูกต้นไม้จนสำเร็จ นำผลงานที่ได้มาอวดกันอย่างสนุกสาน

นางวารี สิริพร ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนวัดมหาธาตุ เล่าว่า "โรงเรียนวัดมหาธาตุจะมีห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เพื่อเปิดโอกาสในการเรียนให้เด็ก ๆ เหล่านี้ เพราะการศึกษาของเด็กที่มีความต้องการพิเศษจะเป็นการศึกษาจำกัดเฉพาะ และเขาจะได้สัมผัสเฉพาะกลุ่มเพื่อนที่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ การมาเรียนรู้นอกห้องเรียนจะทำให้เด็กได้มาเรียนรู้กับเพื่อนที่เป็นปกติ ได้สัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ถือเป็นกิจกรรมที่ดี เด็ก ๆ ได้มาสัมผัสกับธรรมชาติ สังคมภายนอกที่เขาอาจจะไม่ได้ไปสัมผัสตรงนั้น เขาจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ซึ่งบางคนจะมีความกลัวในบางเรื่อง พอเขาได้มาลองสัมผัสความกลัวนั้นก็อาจจะหายไปจากตัวเขา เขาก็จะเอาประสบการณ์นี้ไปปรับใช้กับตัวเขาในชีวิตประจำวัน"

เช่นเดียวกับ ว่าที่ร.ต.หญิงนันท์นภัส แจ่มกระจ่าง คุณแม่ น้องพีพี หรือ ด.ช.นนทพันธ์ แจ่มกระจ่าง ที่เล่าว่า "กิจกรรมในวันนี้ในแต่ละฐานเป็นกิจกรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก และเป็นกิจกรรมที่เด็ก ๆ ในกรุงเทพฯ จะไม่ค่อยได้พบเจอ แต่วันหนึ่งที่เขามีบ้านที่ต่างจังหวัดเขาก็จะได้พบเจอ น้องพีพีมีบ้านอยู่ต่างจังหวัดเขาเลยเคยเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ น้องเลยคุ้นเคยกับสิ่งมีชีวิต การเข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้น้องมีความช่างสังเกตุซึ่งเห็นได้ชัด เมื่อเขาเห็นที่ศูนย์เรียนรู้ฯ มีการสร้างทางเดินของไก่ เขาบอกว่าจะนำกลับไปเล่าให้คุณตาฟังจะได้ทำทางเดินให้กับไก่ที่บ้าน" เมื่อถามน้องพีพีว่าชอบกิจกรรมอะไรบ้างในวันนี้ น้องพีพีบอกว่า "น้องพีชอบกิจกรรมปลูกต้นไม้ เพราะว่าผมชอบปลูกต้นไม้ และฐานไข่ไก่ เพราะผมได้รู้ว่าไก่ฟักไข่ยังไง และผมก็ชอบทางเดินให้กับไก่ ผมจะกลับไปบอกให้คุณตาสร้างให้ครับ"

ส่วนคุณแม่ทองเครือ สาทอง ผู้ปกครอง ด.ญ.นภัสวรรณ สุวรรณ หรือ น้องไอซ์ ที่ได้พาน้องไอซ์มาเข้าร่วมกิจกรรม "พาน้องเที่ยว เสริมการเรียนรู้ สู่การพัฒนา" มาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของน้องในการเข้าร่วมทำกิจกรรมนอกห้องเรียนว่า "กิจกรรมในวันนี้ น้องให้ความสนใจที่จะทำ กิจกรรมไหนที่น้องไม่เคยได้ทำ น้องก็จะตั้งใจที่จะทำ เช่นกิจกรรมยำไข่ดาวน้องมีความชอบน้องก็จะลงมือทำเอง ในปีนี้น้องมีการพัฒนาและมีทักษะที่ดีขึ้นมาก สามารถบอกความต้องการของตัวเองได้ มีสมาธิในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดี และสามารถเข้าสังคมได้มากขึ้น" สำหรับสิ่งที่น้องไอซ์ชอบในวันนี้ น้องไอซ์เล่าให้ฟังว่า "ชอบกิจกรรมการปลูกต้นไม้ เพราะสนุกค่ะ"

การเรียนรู้นอกห้องเรียน เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กที่มีความต้องการพิเศษได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ฝึกกระบวนการคิดและอารมณ์ให้สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสำเร็จ ถึงแม้เด็ก ๆ บางคนจะมีความกลัวสิ่งมีชีวิตต่างๆ แต่น้องๆ ทุกคนก็สามารถก้าวผ่านมันไปได้ โดยมีกำลังใจจากเพื่อน ๆ และผู้ปกครองที่คอยอยู่เคียงข้าง ความกลัวของเด็กๆ จึงหายไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ