จากข้อมูลของการลงพื้นที่รับฟังเสียงของผู้ซื้อและผู้ขาย ประกอบกับในปัจจุบัน สถานการณ์การจำหน่ายสลากแบบรวมชุดทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งในเรื่องของปริมาณการรวมชุดและเรื่องของราคา จนทำให้การหาซื้อสลากแบบใบเดี่ยวทำได้ยาก เนื่องจากถูกดึงไปรวมชุดเป็นส่วนใหญ่ คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงได้ร่วมกันพิจารณาด้วยความรอบคอบ และคำนึงถึงประโยชน์ต่อผู้ซื้อเป็นสำคัญและในขณะเดียวกันก็ไม่ให้กระทบต่อผู้ขาย จึงมีมติให้ดำเนินการจัดทำสลากแบบรวมชุดขึ้น โดยเป็นการรวมชุดแบบ ๒-๒-๑ คือ การจัดชุด 2 ใบ เป็นจำนวน 2 เล่ม และจัดชุด 2 ใบ อีก 2 เล่ม และมี 1 เล่ม ที่เป็นใบเดี่ยว สำหรับชุด 2 ใบแรก มีเลข 6 หลักเหมือนกัน จำนวน 100 ชุด ชุดละ 2 ใบ และจะมีเลขหมายเลข 6 หลักเหมือนกัน ซึ่งไม่ซ้ำกับชุดแรก อีกจำนวน 100 ชุด ชุดละ 2 ใบ และอีก 1 เล่ม จำนวน 100 ใบ ทำให้รายย่อยแต่ละรายได้รับสลากจำนวน 5 เล่มเช่นเดิม แต่สามารถจำหน่ายสลากชุดได้ 200 ชุด ชุดละ 2 ใบ ซึ่งสามารถแยกขายเป็นใบเดี่ยวได้
นอกจากนี้ จะมีการคละตัวเลขภายในเล่มเดียวกัน และการจัดจำหน่ายเป็นการกระจายไปทั่วประเทศ ทำให้ไม่สามารถนำไปจับชุดเพื่อรวมเป็นชุดจำหน่ายในปริมาณมาก ๆ ได้อีกต่อไป และจะพิมพ์สีที่แตกต่างกันเพื่อเป็นจุดสังเกต เพื่อให้ผู้ขายและผู้ซื้อเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นสลากที่พิมพ์ออกมาเป็นแบบรวมชุด สลากแบบรวมชุดนี้ จะจำหน่ายในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าฯ โดยเริ่มดำเนินการในการทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ครั้งที่ 81 ซึ่งเปิดให้จองสลากงวดวันที่ 1 มีนาคม 2562 (ทำรายการจองวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ และทำรายการซื้อวันที่ 1๙ กุมภาพันธ์ 2562) และจะใช้เวลา 3 เดือนในการประเมินผลการทดลองตลาด
สำหรับการการจัดพิมพ์สลากแบบรวมชุดในลักษณะดังกล่าวนี้ เป็นไปเพื่อเป็นการตอบสนองทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ที่มีความต้องการซื้อขายสลากแบบรวมชุด แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องจำกัดปริมาณในการการรวมชุดไม่ให้มีมากจนเกินไปด้วย.