ดีป้าเผยผลสำรวจมูลค่าตลาดดิจิทัลไทย 3 อุตสาหกรรม พบตลาดฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะมีมูลค่าเกือบ 3 แสนล้านบาท e-Payment เงินสะพัดทำกำไรสูง แนะเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากร ควรเป็นวาระแห่งชาติที่ไทยต้องเร่งรับมือ

จันทร์ ๒๘ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๑:๕๕
ดร.กษิติธร ภูภราดัย รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) กล่าวถึง "การสำรวจข้อมูลอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ และอุตสาหกรรมบริการดิจิทัลในประเทศไทยประจำปี 2560" ว่าทิศทางแนวโน้มที่สรุปได้จากการสำรวจนี้ จะสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการตัดสินใจวางแผน และรับมือการเปลี่ยนแปลง ที่เป็นผลมาจาก digital disruptive technologies ได้เป็นอย่างดี จากการสำรวจพบว่า ตลาดฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะปี 2560 โดยภาพรวมมีมูลค่า 294,542 ล้านบาท อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ยังเติบโตต่อเนื่อง ในปี 2561-2562 ประมาณร้อยละ 3-5 เพราะฮาร์ดแวร์เป็นสิ่งจำเป็นของการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตยุคใหม่ และการสำรวจปีนี้เป็นปีแรกที่มีการสำรวจอุตสาหกรรมอุปกรณ์อัจฉริยะ (smart device) ซึ่งเป็นแนวโน้มใหม่ที่ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชนทั่วไปให้ความสนใจทดลองใช้งาน มีความเป็นไปได้ที่ปี 2562 จะนำไปสู่การใช้งานจริงของภาคธุรกิจ ที่ต้องปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงของการทำธุรกิจยุคใหม่ที่เกี่ยวโยงกับทั่วโลก โดยมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญรองรับความเปลี่ยนแปลงนั้น แต่ในส่วนของผู้พัฒนาและผลิตอุปกรณ์อัจฉริยะ หรืออุปกรณ์ไอโอทีมีน้อยราย เพราะสู้กับการพัฒนาครบวงจรของผู้ประกอบการจากประเทศจีนไม่ได้ ต้องผันตัวไปนำเข้าอุปกรณ์และพัฒนาซอฟต์แวร์สั่งการอุปกรณ์เหล่านั้น และ/หรือทำหน้าที่เป็นเอสไอ

มูลค่าตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ ปี 2560 มีมูลค่าการบริโภคซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ 78,818 ล้านบาท โดยเติบโตจากปี 2559 ร้อยละ 1.6 โดยคาดการณ์ว่าปี 2561 และ 2562 ตลาดการบริโภคซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ จะเติบโตร้อยละ 15.19 และ 17.5 ตามลำดับ อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์โดยรวมมีการเติบโตจากปีก่อน เนื่องจากผู้ประกอบการด้านไอทีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ได้รับอานิสงส์จาก 4 ปัจจัยคือ 1. การทรานฟอร์มธุรกิจไปสู่ดิจิทัลของภาคธุรกิจต่าง ๆ จากนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล 2. การปรับตัวของผู้ประกอบการที่มุ่งไปสู่การสร้างโอกาสจากเทคโนโลยีใหม่ เช่น Cloud, Big Data, AI, Blockchain, IoT 3. ความพยายามในการสร้างซอฟต์แวร์หรือแพลตฟอร์มที่เป็นทรัพย์สินของตนเอง และ 4. การเกิดธุรกิจใหม่และผู้ประกอบการรายใหม่ ที่แม้จะยังมีขนาดเล็กแต่มีแนวโน้มที่ดี

รายได้ของผู้ประกอบการด้านบริการดิจิทัลในประเทศ ปี 2560 มีมูลค่ารวม 36,326 ล้านบาท บริการด้านการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) รายได้รวม 11,356,335,631 บาท ในส่วนของกลุ่มบริการด้านเนื้อหา (e-Content) และบริการด้านสื่อบันเทิง (e-Entertainment) เป็นกลุ่มที่มีผู้ใช้งานสูงสุดจากการวัดด้วยจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดย e-Content มีปริมาณการเข้าเว็บไซต์ต่อเดือน 1,896 ล้านครั้ง และ e-Entertainment ปริมาณการเข้าเว็บไซต์ต่อเดือน 558 ล้านครั้ง

รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการ สถาบันไอเอ็มซี กล่าวถึงข้อเสนอแนะต่อภาครัฐเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากร ว่าการแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรควรดำเนินการในระดับนโยบายหรือเป็นวาระแห่งชาติ ปลูกฝังให้เรียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ปฐมวัย มีการเรียนการสอนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในระดับมัธยมและอาชีวะ ในระดับอุดมศึกษา ควรปรับหลักสูตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่เมื่อแนวโน้มมีการเปลี่ยนแปลง บ่มเพาะความรู้เฉพาะทางให้แก่นักศึกษาก่อนจบให้พร้อมทำงาน พัฒนาบุคลากรนอกระบบการศึกษา ให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ต่อผู้ประกอบการ มีนโยบายให้การสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมบนเทคโนโลยีใหม่ หาช่องทางการตลาด วางแนวทางการเติบโต เพื่อเปิดโอกาสในการขยายออกสู่การตลาดวงกว้างต่อไป

การสำรวจมูลค่าตลาดดิจิทัลไทย 3 อุตสาหกรรม รวมถึงการคาดการณ์ปี 2561-2562 เหล่านี้เป็นภาพรวมตลาดของไทย ซึ่งตอกย้ำว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในยุคเปลี่ยนผ่านดิจิทัล (Digital Transformation) โดยพบประเด็นสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมมีการเติบโตขึ้น คือ กระแสของการใช้ดิจิทัลในทุกอุตสาหกรรม ทุกภาคบริการ และมีแนวโน้มอัตราการใช้ดิจิทัลเติบโตขึ้นในทุกภาคส่วน ทั้ง Social Platform, Cashless Society, Blockchain, Chat Bot, Programmatic และคลิปวิดีโอรวมถึง ภาพ 3D, Augmented Reality, และ Virtual Reality ที่จะเป็นสื่อที่มีความสำคัญมากขึ้น ในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ และงานสาธิตสินค้า ภาครัฐ และเอกชน จึงต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก รวมถึงบุคลากรที่ต้องเร่งพัฒนาทักษะให้ก้าวทันเทคโนโลยี เพราะโลกยุคดิจิทัลเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจในไทยได้อย่างเสรี และมีความได้เปรียบเหนือธุรกิจไทยทั้งในด้านเทคโนโลยี ทักษะบุคลากร เงินทุน และกฎระเบียบที่เอื้อหนุนต่อธุรกิจในโลกดิจิทัล โดยผลการสำรวจในครั้งนี้ จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเนื้อหาการสำรวจในครั้งต่อไปแน่นอน

ดูรายละเอียดด้านข้อมูลและการวิจัยเพิ่มเติมได้ที่ www.depa.or.th/depapulse

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version