ฟิทช์ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของธนาคารไทยพาณิชย์ที่ 'BBB+(EXP)’

จันทร์ ๒๘ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๕:๕๑
ฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดว่าจะให้อันดับเครดิตแก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ('BBB+'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/'bbb+') ที่ 'BBB+(EXP)' โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะออกภายใต้โครงการหุ้นกู้ Medium-term note (MTN) ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะออกโดย SCB สาขาหมู่เกาะเคย์แมน

ทั้งนี้หุ้นกู้จะออกเสนอขายจะมีอายุ 5 ปี และ/หรือ 10 ปี โดย SCB คาดว่าจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ในการดำเนินกิจการทั่วไปของธนาคารและเพื่อการระดมทุน

อันดับเครดิตครั้งนี้จะสมบูรณ์ต่อเมื่อฟิทช์ได้รับเอกสารประกอบการวิเคราะห์ต่างๆ ฉบับจริงครบถ้วน และตรงกับข้อมูลที่ฟิทช์ได้รับมาแล้ว

โครงการหุ้นกู้ MTN มูลค่า 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของ SCB มีอันดับเครดิตที่ 'BBB+' เนื่องจากหุ้นกู้ที่จะออกภายใต้โครงการหุ้นกู้ MTN ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันโดยตรง ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีหลักประกัน และไม่ด้อยสิทธิของธนาคาร โดยหุ้นกู้ที่ออกภายใต้โครงการอาจจะเสนอขายในสกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่สกุลเงินบาท

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ของ SCB ที่ 'BBB+' เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCB ซึ่งพิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ของธนาคารที่ 'bbb+'

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCB ไม่น่าจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับในระยะสั้น เนื่องจากอันดับแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารนั้นอยู่ในระดับเดียวกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย (BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) และธนาคารยังมีสัดส่วนเงินลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในระดับสูง นอกจากนี้การปรับตัวแย่ลงของคุณภาพสินทรัพย์และอัตรากำไรอย่างต่อเนื่องและมากกว่าระดับที่ฟิทช์คาดการณ์ (ทั้งนี้รวมถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากของระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ทั้ง 2 ปัจจัยปรับตัวลดลงอย่างมากได้ในอนาคต) และการที่ธนาคารไม่สามารถรักษาความสามารถในการรองรับความเสี่ยงไว้ในระดับที่เพียงพอ ในด้านระดับของสำรองหนี้สูญและฐานะเงินกองทุน อาจส่งผลให้ธนาคารถูกปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินได้

รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคตสำหรับ SCB สามารถหาเพิ่มเติมได้จากรายงานการประกาศอันดับเครดิตเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 (https://www.fitchratings.com/site/ pr/10028995)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๑ วช. ขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพื้นที่ 'ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5' มุ่งลดฝุ่นพิษภาคเหนืออย่างยั่งยืน
๑๘:๐๘ TKS จัดประชุมผู้ถือหุ้นปี 2568 ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.33 บ./หุ้น
๑๘:๔๙ STECH จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 แจกปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.034 บาท
๑๘:๒๒ SGP จัดประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติเคาะปันผลครึ่งปีหลัง 0.20 บาท/หุ้น
๑๘:๐๖ ผู้ถือหุ้น FLOYD พร้อมใจเห็นชอบ ไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.08 บาท/หุ้น
๑๘:๑๑ TEKA จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 พร้อมไฟเขียวจ่ายปันผล 0.155 บาท
๑๘:๒๓ BRR จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นเคาะจ่ายปันผล 0.50 บาท/หุ้น
๑๘:๓๘ กลุ่มเหล็กรุ่นใหม่ เข้าพบ 'เอกนัฏ' ประสานเสียงให้กำลังใจ ดันยกเลิกเหล็ก IF กันเหล็กนำเข้าไร้มาตรฐาน
๑๘:๑๘ ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ เอเชีย เอรา วัน และกรมป่าไม้ จัดกิจกรรมรักษ์โลก สร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
๑๗:๒๘ LPH ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห. ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.10 บ./หุ้น