นายสุเมธ โศจิพลกุล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา (สพร.5นครราชสีมา) เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดโครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงานสู่ SME 4.0 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจัดทำขึ้น เพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการ ได้รับการพัฒนาศักยภาพแรงงาน และกระบวนการผลิตหรือบริการ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นขึ้น สามารถลดต้นทุนการผลิต หรือสามารถผลิตสินค้าได้มากขึ้น รวมถึงลดการสูญเสียในกระบวนการผลิตด้วย
นอกจากนี้โครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงานสู่ SME 4.0 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ยังมุ่งเน้นให้สถานประกอบกิจการมีความเข้มแข็ง รองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจัดฝึกอบรมให้ความรู้แก่พนักงานของสถานประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการ ทั้ง Re-skill และ Up-skill พร้อมเพิ่มทักษะด้านการประยุกต์ใช้ความรู้ ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม คณิตศาสตร์ หรือ STEM Workforce โดยเฉพาะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ จัดทีมงานให้คำปรึกษาแนะนำในกระบวนการทำงานที่ควรได้รับการปรับปรุงแก้ไข หรือเป็นจุดอ่อนของกระบวนงานที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขั้น
นายสุเมธ กล่าวต่อไปว่า ในการให้คำปรึกษาแต่ละครั้ง จะมีเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานร่วมศึกษาเรียนรู้กระบวนงานดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นที่ปรึกษาด้านผลิตภาพแรงงานในอนาคต หรือเรียกว่า "นักพัฒน์พันธุ์ใหม่"
สำหรับในปี 2562 มีสถานประกอบกิจการเข้าร่วมโครงการจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ บริษัท เชิดชัยคอร์ปอเรชั่น จำกัด จังหวัดนครราชสีมา บริษัทโตโยต้าชัยภูมิ จำกัด สำนักงานใหญ่จังหวัดชัยภูมิ ห้างหุ่นสวนจำกัด เรืองแสงไทย จังหวัดบุรีรัมย์ บริษัทโรงสีทรัพย์อนันต์จำกัด จังหวัดสุรินทร์ และบริษัท เอี่ยมธงชัยอุตสาหกรรมจำกัด จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีหน่วยงานของกพร.เป็นผู้ประสานงานคือ สพร.5 นครราชสีมา สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดชัยภูมิ, บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นคณะที่ปรึกษา
"หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะสร้างความร่วมมือที่ดีของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดทำพิธีบันทึกลงนามความร่วมมือ 3 ฝ่ายในครั้งนี้ขึ้นด้วย ระหว่างสพร.5นครราชสีมาแลเครือข่าย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อร่วมกันผลักดันให้สถานประกอบกิจการ SMEs สามารถนำแนวทางไปปฏิบัติเพื่อเพิ่มผลิตภาพแรงงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งส่งผลต่อการเสริมสร้างศักยภาพแรงงานและการแข่งขันของประเทศ ให้มีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน" นายสุเมธ กล่าวทิ้งท้าย