พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบัน มีจำนวนผู้เดินทางข้ามเขตแดนประเทศไทย โดยผ่านท่าอากาศยานทั่วทุกภูมิภาคในประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประมาณ 7 ล้านคน ที่สามารถขอยื่นเรื่องการตรวจลงตรา Visa On Arrival ในการเข้าประเทศ ซึ่งทำให้เกิดความแออัดของนักท่องเที่ยวในการเข้าคิวรอตรวจเอกสาร ประกอบกับข้อจำกัดของพื้นที่ในการให้บริการที่ไม่เพียงพอ ทำให้ไม่เอื้ออำนวยต่อความสะดวก รวดเร็ว และ ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้รับความร่วมมือจากบริษัทภาคเอกชน VFS Global ที่เข้ามาช่วยในการออกแบบและพัฒนากระบวนการทำงานของ "ระบบทำการแทนเพื่อการให้บริการของภาครัฐ" ในการรับและส่งผ่านข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยการสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการพัฒนาระบบขอรับการตรวจลงตรา Electronic Visa On Arrival (E-VOA) ชำระค่าธรรมเนียมออนไลน์ (e-Payment) ทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ภายใต้มาตรฐานการเชื่อมโยงข้อมูล (Standard) พร้อมทั้งมาตรการในการดูแลความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ (Security) ข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy) ที่สอดคล้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดย VFS Global เป็นผู้ออกแบบและพัฒนาระบบดังกล่าว
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าวมีระบบที่มีมาตรฐาน และบรรลุเป้าหมาย สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลไปสู่ระบบราชการ 4.0 ตลอดจนสามารถเข้ามาติดตามและตรวจสอบการปฏิบัติงานได้ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานรวมทั้งความมั่นคงปลอดภัยของไซเบอร์ โดยโครงการเริ่มจาก 20 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอินเดีย ราชรัฐอันดอร์รา สาธารณรัฐบัลกาเรีย ราชอาณาจักรภูฏาน สาธารณรัฐไซปรัส สหพันธ์สาธารณรัฐเอธิโอเปีย สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ สาธารณรัฐคาซัคสถาน สาธารณรัฐลัตเวีย สาธารณรัฐลิทัวเนีย สาธารณรัฐมัลดีฟส์ สาธารณรัฐมอลตา สาธารณรัฐมอริเชียส ปาปัวนิวกินี โรมาเนีย สาธารณรัฐมารีโน ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ยูเครน อุซเบกิสถาน รวมทั้ง 1 เขตเศรษฐกิจไต้หวัน โดยไม่ต้องกรอกเอกสารใดๆ ใช้พาสปอร์ตยื่นให้กับเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเข้ารับการตรวจลงตราได้ทุกช่องบริการ
พร้อมกันนี้ ทางบริษัท VFS Global ได้ดำเนินการพัฒนาโครงการ Fast Track เพื่อเป็นการยกระดับการให้บริการแก่ผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว เป็นการสร้างภาพลักษณ์ ความประทับใจให้กับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านเข้าออกประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่ว่าจะเดินทางเพื่อมาพักผ่อน ท่องเที่ยว ลงทุน หรือประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารชั้นหนึ่ง และชั้นธุรกิจอย่างเป็นระเบียบ กองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะได้นำระบบสิทธิพิเศษในการผ่านเข้าเมือง Fast Track มาช่วยเสริมในขั้นตอนการผ่านพิธีการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนในการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการอำนวยความสะดวกในโครงการนี้
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าที่ผ่านมา บริษัท การบินไทยฯ มีนโยบายในการให้ความสำคัญในเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทางของผู้โดยสารมาโดยตลอด ได้เปิดตัวโมบายแอปพลิเคชันใหม่ "Thai Airways" เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเดินทาง เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานแอปพลิเคชันให้กับลูกค้าของการบินไทย อีกทั้งเพิ่มช่องทางในการให้บริการลูกค้าและเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และในวันนี้ Thailand E-Visa On Arrival ก็จะเป็นอีกหนึ่งบริการที่บริษัทฯ เลือกสรรมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารของการบินไทยและไทยสมายล์ ในการประหยัดเวลา และลดขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยไม่ต้องเข้าคิวทำวีซ่าเพื่อขอเข้าประเทศไทยอีกต่อไป
เมื่อผู้โดยสารซื้อบัตรโดยสารผ่านทางเว็บไซต์ thaiairways.com หรือ thaismileair.com รวมทั้งโมบายแอปพลิเคชันการบินไทยและไทยสมายล์ จะสามารถขอ Thailand E-Visa On Arrival ได้ทุกที่ ทุกวัน ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง โดยในเบื้องต้นเริ่มจากนักท่องเที่ยว 20 ประเทศ 1 เขตเศรษฐกิจ (ไต้หวัน) ทั้งนี้ ขั้นตอนในการดำเนินการที่สะดวกสบาย เพียงผู้โดยสารเลือกซื้อบริการผ่านทางเว็บไซต์ thaiairways.com หรือ thaismileair.com และโมบายแอปพลิเคชันการบินไทย โดยเลือกคลิ๊กไปที่ เมนู "Thailand E-Visa On Arrival" แล้วกรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว รายละเอียดการเดินทาง พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าล่วงหน้าผ่านระบบทางเว็บไซต์ thailandevoa.vfsvisa.com ซึ่ง VFS Global จะแจ้งผลพร้อมส่งเอกสารยืนยันการพิจารณาการคัดกรองและตรวจสอบเอกสารล่วงหน้ากลับไปยังอีเมล์ของผู้โดยสารโดยใช้เวลาเพียง 3 วันทำการ สำหรับการขอวีซ่าแบบธรรมดา และยังมีบริการพิเศษการขอวีซ่าแบบเร่งด่วนภายใน 24 ชั่วโมงอีกด้วย นอกจากนี้ ผู้โดยสารที่เดินทางกับสายการบินอื่นก็สามารถซื้อบริการเสริมนี้ผ่านช่องทางดังกล่าวได้เช่นกัน
นายซูบิน กัลกาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท VFS Global Group จำกัด กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและการบินไทย เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทย ในขณะเดียวกันเรื่องการรักษาความลับของข้อมูลและความพร้อมในด้านระบบปฏิบัติการ รวมถึงความเชี่ยวชาญด้านการบริการของศูนย์รับยื่นคำร้องขอวีซ่าทั่วโลก จึงทำให้เราเป็นผู้นำทางด้านการบริการด้านวีซ่า พร้อมกันนี้ เราได้จัดหาระบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย เราภูมิใจที่จะร่วมมือกับสถานทูตไทยซึ่งเราได้มีความสัมพันธ์มายาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 และให้การบริการวีซ่าทั้ง 27 เมือง ใน 4 ประเทศ โดยผ่านทางศูนย์การยื่นวีซ่า 27 แห่งที่เป็นเครือข่ายที่แข็งแรง ในฐานะองค์กร เรายังคงสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและการพัฒนาของประเทศไทยตลอดมา โดยผ่านทางคนทำงานที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นชาวไทย 326 คน ผู้ทำหน้าที่สนับสนุนการดำเนินการของเรา ซึ่ง 96 คนนั้น ทำหน้าที่ดำเนินโครงการ E-VOA