นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร เผยว่า ด้วยกรมศุลกากรมีภารกิจสำคัญ ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติทางทะเล พร้อมทั้งรักษากฎหมายทางทะเลในฐานะหน่วยงานหลักของศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมศุลกากร โดยฝ่ายยานพาหนะทางน้ำ ส่วนสืบสวนปราบปราม ๒ สำนักสืบสวนและปราบปราม จึงมีความประสงค์ในการจัดทำเรือตรวจการณ์ทางทะเล "ศุลกากร ๘๐๗"ขึ้น ซึ่งเป็นการทดแทนเรือศุลกากรที่ต้องทำการปลดระวาง ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ศุลกากรในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบหนีศุลกากร การกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียมและยาเสพติดทางทะเลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เรือตรวจการณ์ที่จะต่อขึ้นใหม่มีรัศมีทำการทั้งใกล้และไกล ซึ่งจะทำให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติทางทะเลและการรักษากฎหมายทางทะเล ตลอดจนการกำกับดูแลโครงการจำหน่ายน้ำมันดีเซล (สีเขียว) สำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรไทย สามารถดำเนินการได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และยังสามารถตรวจสอบการจำหน่ายน้ำมันดีเซลแก่ชาวประมงให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับที่ทางราชการกำหนดอีกด้วย
สำหรับเรือตรวจการณ์ทางทะเล "ศุลกากร ๘๐๗" มีขนาดลำเรือ 80 ฟุต โดยมีความยาวตลอดลำ ๒๕ เมตร ความกว้างกลางลำ ๕.๙๐ เมตร กินน้ำลึกตัวเรือ กึ่งกลางลำ ๑.๑๐ เมตร ความเร็วสูงสุด (HALF LOAD) ไม่ต่ำกว่า ๓๐ น็อต ความเร็วสูงสุดต่อเนื่อง ไม่ต่ำกว่า ๒๗ น็อต ระยะทำการ ไม่ต่ำกว่า ๖๐๐ ไมล์ทะเล ซึ่งกรมศุลกากรได้ว่าจ้างบริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) ให้เป็นผู้ดำเนินการต่อเรือดังกล่าว และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 19 กันยายน 2562 โดยเมื่อแล้วเสร็จแล้วจำนำเข้าประจำการในทะเลฝั่งอันดามันในลำดับต่อไป