วงการเหล็กชี้ยุติเซฟการ์ดพังแน่! ผู้ผลิต-ผู้ใช้ประสานเสียงยืดมาตรการ

พุธ ๓๐ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๖:๔๕
ผู้ผลิต – ผู้ใช้เหล็กชี้ยุติมาตรการเซฟการ์ดสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยด์ อุตสาหกรรมเหล็กในประเทศพังแน่ วอนรัฐฯ ต่ออายุเซฟการ์ดที่กำลังหมดอายุลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 ป้องกันสงครามทางการค้า สินค้าเหล็กที่ไม่สามารถส่งออกไปยังประเทศที่มีมาตรการทางการค้าระบายเข้ามา เผยหลายประเทศใช้มาตรการเซฟการ์ดในรูปแบบพิเศษ เปิดไต่สวนสินค้าเหล็กหลายประเภทในคราวเดียวซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน

นายนาวา จันทนสุรคน นายกสมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย และผู้ประสานงานกลุ่ม 7 สมาคมฯ เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวกระทรวงพาณิชย์ไม่ขยายเวลาบังคับใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น หรือเซฟการ์ด ของสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยด์ ซึ่งมาตรการจะหมดอายุลงในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 ว่าได้สร้างความแตกตื่นให้กับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเหล็กทั้งวงการ เนื่องจากขณะนี้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างมีนโยบายในการคุ้มครองอุตสาหกรรมในประเทศจากสงครามทางการค้า แต่ประเทศไทยกลับมีนโยบายที่สวนกระแสโลก เซฟการ์ดเป็นมาตรการที่มีความสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่งยวดสำหรับอุตสาหกรรมผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนในปัจจุบัน เนื่องจากสถานการณ์สงครามทางการค้าของสหรัฐอเมริกา-จีน ซึ่งปัจจุบันประเทศผู้นำเข้าเหล็กรายใหญ่ของโลกไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกาที่ใช้มาตรการ 232

"สหภาพยุโรป ตุรกี และแคนาดา ใช้มาตรการเซฟการ์ดในรูปแบบพิเศษ ที่เปิดไต่สวนสินค้าเหล็กหลายประเภทในคราวเดียวซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ดังนั้นสินค้าเหล็กที่ไม่สามารถส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้ได้ย่อมต้องถูกระบายไปยังประเทศที่ไม่มีมาตรการทางการค้า และหากไทยยุติมาตรการเซฟการ์ดในช่วงนี้ก็จะทำให้เกิดวิกฤติต่ออุตสาหกรรมเหล็กแผ่นรีดร้อนในประเทศ ดังเช่นในปี 2556 ซึ่งเป็นช่วงก่อนบังคับใช้มาตรการผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนบางรายต้องหยุดดำเนินการชั่วคราวไปเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี และหากมองจากสถานการณ์ในครั้งนี้ผลกระทบจะมีความรุนแรงเป็นทวีคูณอย่างแน่นอน"

"หากมีสินค้าไหลทะลักเข้ามาหลังยุติมาตรการ กลุ่มผู้ผลิตในประเทศที่มีการลงทุนไปกว่า 200,000 ล้านบาทอาจต้องเผชิญอุปสรรคที่ใหญ่หลวงที่สุดในการดำเนินธุรกิจ และอาจจะส่งผลกระทบต่อคู่ค้า และธนาคารเจ้าหนี้ รวมถึงส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่ต้องใช้เงินดังกล่าวเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการลงทุนของภาคเอกชนในประเทศ"

"ทั้งนี้ กลุ่ม 7 สมาคมเหล็กฯ ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเพื่อขอให้พิจารณาใช้มาตรการค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็ก (Surcharge) กรณีที่ไม่มีการขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการเซฟการ์ด ตามที่ ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2558 ได้อนุมัติในหลักการให้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษ (Surcharge) สำหรับสินค้าเหล็กกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการคุ้มครองจากมาตรการของรัฐ ตามมาตรา 49 ของ พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 และจะเข้ายื่นหนังสือต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ภายในสัปดาห์นี้เพื่อชี้แจงความจำเป็นของการต่ออายุมาตรการเซฟการ์ด และความเสียหายของอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศกรณีไม่มีมาตรการ" นายนาวากล่าว

นายวรพจน์ เพียรอภิธรรม นายกสมาคมผู้ผลิตท่อโลหะและแปรรูปเหล็กแผ่น ซึ่งเป็นสมาคมหลักที่เป็นผู้ใช้สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนในประเทศได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า "สมาชิกของสมาคมเป็นผู้ใช้สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีทั้งการนำเข้า และซื้อสินค้าในประเทศ และถึงแม้มีมาตรการเซฟการ์ด สินค้าในประเทศก็มีการปรับขึ้นลงตามสถานการณ์ตลาด และต้นทุนในการผลิต ไม่ได้ถือโอกาสปรับราคาอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งสมาชิกฯ ก็ยินดีสนับสนุนการใช้สินค้าในประเทศ เพื่อให้ทั้งอุตสาหกรรมสามารถดำเนินธุรกิจ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้ แต่หากภาครัฐไม่มีการบังคับใช้มาตรการเซฟการ์ดต่อไปในช่วงนี้ และเกิดขึ้นอย่างกระชั้นชิดไม่มีเวลาให้อุตสาหกรรมในประเทศได้เตรียมตัว (จะมีการพิจารณาในเดือนกุมภาพันธ์ และมาตรการจะหมดอายุวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562) เชื่อว่าอุตสาหกรรมเหล็กทั้งห่วงโซ่การผลิตต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

เนื่องจากสินค้าที่จะไหลทะลักเข้ามา โดยเฉพาะจากจีนมีราคาต่ำมากผิดปกติจะส่งผลให้ ธุรกิจในอุตสาหกรรมปลายน้ำจะเกิดการชะงักงัน การทำธุรกิจชะลอตัว เนื่องจากผู้ผลิต และผู้ซื้อไม่มีความมั่นใจในราคาสินค้า ผู้ประกอบการต้องแบกภาระต้นทุนที่เกิดขึ้น และสุดท้ายต้องประสบกับภาวะขาดทุน เนื่องจากต้องลดราคาสินค้าตามราคาสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนที่ไหลทะลักเข้ามา ดังนั้นสมาคมฯ ในฐานะผู้ใช้หลักขอสนับสนุนให้ภาครัฐขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการเซฟการ์ดต่อไป 3 ปี หรืออย่างจนกว่าปัญหาสงครามทางการค้าจะยุติลง รวมถึงให้ผู้ประกอบการในประเทศสามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังไม่มีมาตรการได้เสียก่อน"

นอกจากนี้ นายเชาวรัตน์ จั่นประดับ นายกสมาคมเหล็กแผ่นรีดเย็นไทย และนายพงศ์เทพ เทพบางจาก นายกสมาคมผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี ร่วมให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า "สมาคมฯ สนับสนุนการขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการเซฟการ์ดเช่นกัน เนื่องจากหากยุติมาตรการอย่างกะทันหันเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กทั้งห่วงโซ่การผลิตอย่างแน่นอน และสำหรับสมาชิกของสมาคมที่เป็นนักลงทุนต่างชาติจากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ คาดว่าไม่น่าจะเกิดการขอชดเชย และการตอบโต้จากทั้ง 2 ประเทศอย่างแน่นอน เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่ที่นำเข้าจากทั้ง 2 ประเทศเป็นสินค้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เหล็กชั้นคุณภาพพิเศษ และเหล็กแผ่นรีดร้อนสำหรับการรีดเย็นต่อ ได้รับการยกเว้นมาตรการอยู่แล้ว จึงไม่กระทบใดๆ"

ในมุมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายวิกรม วัชระคุปต์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก กล่าวว่าเจตนารมณ์ของการขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการเซฟการ์ดนั้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมภายในขณะดำเนินการปรับตัวเพื่อแข่งขันกับสินค้านำเข้า ดังนั้นการยุติมาตรการโดยให้เหตุผลว่าอุตสาหกรรมภายในไม่มีความเสียหายอย่างร้ายแรง จึงไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

โดยในการขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการเซฟการ์ดในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นไปเพื่อป้องกันความเสียหายตามเจตนารมณ์ของกฎหมายนี้เช่นกัน

นอกจากนี้ จากปัญหาความรุนแรงของสงครามทางการค้าของสหรัฐ และจีนที่ยังคงมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยประเทศต่างๆทั่วโลกมีการใช้มาตรการเซฟการ์ด และมาตรการอื่นๆคุ้มครองอุตสาหกรรมเหล็กของตน แต่ไทยกลับจะยุติมาตรการเซฟการ์ดซึ่งเป็นมาตรการที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ การยุติมาตรการจึงเป็นสิ่งที่ควรจะพิจารณาทบทวนอีกครั้งเพื่อให้อุตสาหกรรมเหล็กของไทยยังคงสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

อย่างไรก็ตามนับเป็นอีกครั้งที่อุตสาหกรรมผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน และอุตสาหกรรมปลายน้ำได้ซึ่งเป็นผู้ใช้หลักได้ออกมาให้ความเห็นที่สอดคล้องกันเช่นนี้ ว่าการยุติมาตรการเซฟการ์ดจะเป็นการสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมเหล็กทั้งห่วงโซ่การผลิต ไม่ใช่เฉพาะผู้ผลิตสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเท่านั้น ดังนั้นจึงขอความกรุณาคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้องทบทวนผลการพิจารณาเพื่อให้อุตสาหกรรมเหล็กไทย และเศรษฐกิจไทยในภาพรวมสามารถเดินหน้าต่อไปได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ