สบน.ชี้แจงเพิ่มเติมข้อวิจารณ์การกู้เงินจากจีนสำหรับโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพฯ – หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา)

พฤหัส ๓๑ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๐:๕๓
นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นข้อวิจารณ์การกู้เงินจากจีนสำหรับโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา)

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ขอชี้แจงว่า การดำเนินโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา) ได้ผ่านการวิเคราะห์จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้วว่า จะเกิดผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจากการดำเนินโครงการ รวมถึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในด้านลดต้นทุนค่าขนส่งสนับสนุนกระจายความเจริญและรายได้ไปสู่ภูมิภาค ตลอดจนเชื่อมโยงการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่ง (Logistics Hub) ของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

อย่างไรก็ดี สำหรับข้อกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและขีดความสามารถในการชำระหนี้เงินกู้ของประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงว่า โครงการฯ มีแหล่งเงินทุนจากหลายแหล่ง โดยจะใช้แหล่งเงินทุนในประเทศเป็นหลัก ประมาณร้อยละ 80 ของวงเงินรวมโครงการ และจะใช้เงินกู้ต่างประเทศสำหรับรายการที่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศและใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งคิดเป็นเพียงร้อยละ 20 ของวงเงินโครงการ ในการนี้ กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสมที่มีเงื่อนไขเงินกู้ที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับแหล่งเงินกู้ ในประเทศ เช่น มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และอายุเงินกู้ยาว รวมทั้งไม่มีเงื่อนไขผูกมัดใดๆ ที่ทำให้ประเทศไทยต้องเสียเปรียบ ทั้งนี้ ในการกู้เงินสำหรับลงทุนในโครงการพัฒนา กระทรวงการคลังได้คำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของประเทศ และกรอบการบริหารหนี้สาธารณะภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 และพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นต้น นอกจากนี้ หากพิจารณาประเด็นทุนสำรองระหว่างประเทศ พบว่า ปัจจุบันยังมีระดับสูง โดย ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2561 มีจำนวน 203,153.03 ล้านเหรียญสหรัฐ

คณะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

โทร. 02 265 8050 ต่อ 5500, 5503

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ