ห้างแว่นท็อปเจริญ ร่วมกับ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ฉลองความสำเร็จ “โครงการแว่นตาเพื่อน้อง” ครบรอบ 5 ปี พร้อมประกาศเดินหน้าช่วยเหลือเรื่องสายตาเด็กในถิ่นทุรกันดารต่ออีก 5 ปี

จันทร์ ๐๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๙ ๑๒:๒๕
"ห้างแว่นท็อปเจริญ" ร่วมกับ "มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย" ฉลองความสำเร็จในโอกาสครบรอบ 5 ปี "โครงการแว่นตาเพื่อน้อง" ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานมูลนิธิฯ ในการให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่มีปัญหาด้านสายตาในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศให้มีสุขภาพตาที่ดีขึ้น และได้รับการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเนื่องจากการมองเห็นที่ชัดเจน นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2558 จนถึงปัจจุบัน โครงการได้ดำเนินงานและส่งทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมเครื่องมืออันทันสมัยลงพื้นที่ตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นใหม่ฟรีให้แก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลไปแล้วกว่า 5,000 ราย โดยล่าสุด "ห้างแว่นท็อปเจริญ" ยังได้รับพระราชทานพระราชานุญาตในการสานต่อโครงการฯ อย่างต่อเนื่องเพิ่มอีก 5 ปีจนถึงปีพ.ศ. 2567 พร้อมเชิญชวน

ชาวไทยตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสายตาของเด็กและเยาวชนในยุคปัจจุบัน

คุณนพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการห้างแว่นท็อปเจริญ กล่าวว่า ห้างแว่นท็อปเจริญดำเนินธุรกิจ ด้วยความมุ่งมั่นและตระหนักถึงการให้บริการด้านสุขภาพดวงตาเพื่อสังคมมาโดยตลอด ทั้งยังให้การช่วยเหลือประชาชนที่มีปัญหาด้านสายตามาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการสนองพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเล็งเห็นความสำคัญของสายตาเยาวชนไทยซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ห้างแว่นท็อปเจริญจึงได้จัดตั้ง "โครงการแว่นตาเพื่อน้อง" ร่วมกับมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 5 ปีเต็ม โดยโครงการฯ พบว่ามีเด็กอายุระหว่าง 8-18 ปี เป็นจำนวนมากที่มีปัญหาด้านสายตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือภาวะสายตาสั้น โครงการจึงได้ออกหน่วยบริการ ลงพื้นที่ตรวจวัดสายตา ตรวจสุขภาพดวงตาและประกอบแว่นใหม่ให้กับเด็กๆ ฟรี เฉลี่ยครั้งละ 500 คนขึ้นไป และได้ส่งมอบแว่นสายตาไปแล้วกว่า 5 พันรายทั่วประเทศ

"นอกจากนี้ โครงการพบว่ายังมีเด็กและเยาวชนไทยอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือด้านสายตา อย่างเข้าถึง ห้างแว่นท็อปเจริญจึงได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการสานต่อโครงการฯ ต่อเนื่องอีก 5 ปี ในปี พ.ศ. 2563 – 2567 ภายใต้แนวคิด "See your dreams" ให้ความฝันเด็กไทยชัดเจนขึ้น เพราะเราทราบดีว่าเด็กๆ ทุกคนมีความฝัน การมีสายตาที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เด็กสานฝันของตัวเองให้เป็นจริงได้ และแว่นตาก็เปรียบเสมือนเครื่องมือที่ช่วยให้น้องๆ มองเห็นชัดเจน ได้ต่อเติมและเดินหน้าทำตามความฝันของตัวเองจนประสบความสำเร็จ จากเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นดังกล่าวนี้ แว่นท็อปเจริญคาดว่าโครงการฯ จะสามารถให้ความช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาด้านสายตาได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 หมื่นราย ภายในปี พ.ศ.2567 ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้" นายนพศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม

คุณปริยา อังสุวร กรรมการอำนวยการและเหรัญญิก มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย กล่าวว่า "มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย จัดตั้งขึ้นโดยพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย มีหน้าที่ให้การสงเคราะห์เด็กและผู้เยาว์ที่ถูกทอดทิ้ง รวมถึงการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งหนึ่งในปัญหาสุขภาพ ที่มูลนิธิฯ พบมาโดยตลอด คือ ปัญหาด้านสายตา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยี เนื่องด้วยเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่เกิดและโตมาในยุคที่เทคโนโลยีและอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ ค่อนข้างมาก อาทิ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ รวมถึงสมาร์ทโฟน เข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นจากความบกพร่องตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดจากความเสื่อมของร่างกาย ซึ่งยังมีเด็กและเยาวชนอีกเป็นจำนวนมากที่ขาดโอกาสในการรับการดูแลรักษาด้านสายตา มูลนิธิฯ จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ห้างแว่นท็อปเจริญจะสานต่อโครงการฯ ต่อเนื่องอีก 5 ปี เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนเหล่านี้ให้มีสุขภาพตาที่ดีขึ้น และได้รับการศึกษาได้อย่างเต็มที่อีกด้วย"

นายแพทย์นพวุฒิ ตรีพรชัยศักดิ์ จักษุแพทย์และผู้อำนวยการศูนย์รักษาตาท็อปเจริญ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันพบปัญหาทางด้านสายตาในเด็กไทยที่มีอายุระหว่าง 5 - 18 ปี คือ ปัญหาสายตาสั้นเทียม โรคตาเข/ตาเหล่ โดยปัญหาเหล่านี้พบบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเด็กมักใช้สายตาในการมองระยะใกล้มากขึ้น ทั้งการอ่านหนังสือ การทำกิจกรรมในบริเวณที่มีแสงน้อย หรือใช้สายตาสู้แสงแดดจ้า แสงไฟจัด รวมถึงปัญหาสำคัญของเด็กในยุคนี้คือการใช้สายตาสัมผัสกับเทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสายตา อีกปัญหาคือเรื่องโรคตาขี้เกียจ ที่มักพบในเด็กเล็กช่วงวัยเตรียมเข้าโรงเรียน ซึ่งโรคดังกล่าวทำให้พัฒนาการทางสมองส่วนการมองเห็นไม่สมบูรณ์ และเป็นผลทำให้ความสามารถในการมองเห็นสิ้นสุดลงในระยะยาว วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับเด็กๆ และผู้ปกครอง ควรแนะนำลูกหลานให้ความสำคัญในการดูแลและใช้สายตาอย่างเหมาะสม ทั้งการอ่านหนังสือหรือใช้อุปกรณ์ไอทีที่จำเป็น ควรพักสายตา 10 นาทีต่อการใช้งานต่อเนื่อง 30 นาที สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ ไม่ควรใช้อุปกรณ์ดิจิทัลเกิน 20-30 นาทีต่อครั้งและไม่ควรเกินวันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในที่มืดหรือหน้าจอมีความสว่างมากเกินไป นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนที่เพียงพอ และการพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพดวงตาอย่างเป็นประจำ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยให้เยาวชนมีสุขภาพดวงตาที่แข็งแรงสมบูรณ์"

สำหรับกิจกรรมสานต่อ โครงการแว่นตาเพื่อน้อง ที่จัดขึ้นในปีนี้ ยังได้รับเกียรติจากดาราศิลปินชื่อดังอย่าง 'บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์' พรีเซนเตอร์คนใหม่ล่าสุดของห้างแว่นท็อปเจริญ ที่ควงแขนมาพร้อมกับ 'น้องวันใหม่ ฉัตรบริรักษ์' พร้อมด้วยคู่ดาราแม่ลูก แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญกับน้องปีใหม่ และพิธีกรสาว อ้น-ศรีพรรณ เข้าร่วมเป็นจิตอาสาในการจัดทำของขวัญสุดพิเศษให้กับน้องๆ ในถิ่นทุรกันดารอีกด้วย คลิกดูเพิ่มเติมได้ที่ Facebook.com/TopCharoenOpticalOfficial เว็บไซต์ www.topcharoen.co.th ไลน์ @top_charoen หรือ โทร. 02–612–4170

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO