จากนโยบายดังกล่าวทำให้บริษัทฯ ได้รับรายการสั่งซื้อน้ำมันปาล์มในปริมาณที่มากขึ้นจากกลุ่มลูกค้าตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา นอกจากบริษัทจะได้รับอานิสงส์ด้านปริมาณการขาย รายได้ที่เพิ่มขึ้นแล้ว นโนบายดังกล่าวยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้จากการปลูกและขายปาล์มได้มากขึ้นด้วย
"ปัจจุบันมองว่าเรามีปริมาณการค้าขายสินค้าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ยิ่งจากนโยบายผลักดัน B20 ของรัฐบาลที่ได้รับการพูดถึงช่วงนี้ทำให้เรามีออเดอร์เข้ามามากขึ้น ซึ่ง OCEAN มีความพร้อมทางด้าน supply อยู่แล้ว สามารถหาสินค้าเพื่อจัดส่งให้ลูกค้าได้ตามออเดอร์ ทั้งยังมีกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย ถือว่าเป็นช่วงโอกาสที่ดีของเรา นอกจากนี้บริษัทยังสนใจที่จะรุกเข้าไปทำธุรกิจอื่นในสายอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเพิ่มเติม เนื่องจากอยู่ในสายธุรกิจที่เรามีความถนัดและมีบุคคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้ว หากศึกษาในธุรกิจนั้นๆแล้วเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์และเป็นทางเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทได้เราก็พร้อมที่จะเข้าไปทำ" นาง ชัชชญา ไตรตระกูลชัย รองประธานกรรมการบริษัท กล่าว
"การทำงานหนักของเราทั้งหมด เพื่อสร้างพื้นฐานธุรกิจให้ OCEAN เป็นธุรกิจที่ดี มีความมั่นคง แน่นอนว่าขณะนี้เราอยู่ในขั้นตอนพิสูจน์ตัวเองให้ทั้งผู้ถือหุ้นและนักลงทุนเห็นว่า OCEAN คือของจริง ดำเนินธุรกิจจริงและมีพื้นฐานที่แข็งแร็ง ซึ่งสิ่งที่เราเริ่มทำไปแล้วคือการลดภาระกิจการที่ไม่ทำกำไร ไม่จำเป็น หรือขาดทุนออก และมุ่งเน้นในธุรกิจปิโตรเลียมที่ทำกำไรแทน เรามั่นใจเกิน 100 %ว่าแผนการฟื้นฟูธุรกิจนี้จะชัดเจนและประสบความสำเร็จในเวลาอันใกล้ เห็นได้จากที่มีกองทุนระดับใหญ่ของต่างประเทศเข้ามาร่วมถือหุ้นด้วยเพราะเขามีความมั่นใจในศักยภาพของ OCEAN" นาง ชัชชญา กล่าวเสริม
โดยล่าสุด มีรายงานการเข้ามาถือหุ้นของกองทุน CAPITAL ASIA INVESTMENTS PTE LTD (CAI) อันเป็นกองทุนจากประเทศสิงคโปร์ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAS มีมูลค่าหลักทรัพย์ราว 500ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 15,000ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวนับว่าเป็นกองทุนชื่อดังที่มุ่งเน้นการเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานและปิโตรเลียมเท่านั้น ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นสัญญาณที่ดี สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจว่ามีความแน่นอน