ทั้งนี้ ในความร่วมมือดังกล่าวได้มุ่งพัฒนาไปสู่การเป็นขอนแก่นสมาร์ทซิตี้ ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Smart Mobility การเดินทางอัจฉริยะ Smart people ประชาชนต้องเข้าใจ Smart Health สุขภาพสำคัญ Smart security ทุกพื้นที่มีความปลอดภัย Smart education เหมาะสมกับการศึกษาในศตวรรษที่ 21 Smart environment ใส่ใจสิ่งแวดล้อม Smart energy ใช้พลังงานอย่างอัจฉริยะ สิ่งต่าง ๆเหล่านี้จะหนุนช่วยให้ขอนแก่นกลายเป็น Smart city ซึ่งจะเกิดขึ้นได้พร้อมกันนั้นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน มหาวิทยาลัยขอนแก่นในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีองค์ความรู้จากการวิจัย พัฒนา สร้างนวัตกรรม ช่วยเหลือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวขอนแก่น โดยการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า อินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things : IoT) นำโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลจากเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่มีอยู่แล้ว มาพัฒนาต่อยอด โดยมีเป้าหมายหลักคือการเพิ่มคุณภาพชีวิตและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในเมือง ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวครอบคลุมไปถึง โรงพยาบาล ระบบขนส่ง โรงไฟฟ้า น้ำประปา การจัดการขยะ เป็นต้น โดยเน้นให้บริการข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมมือจากหลายภาคีเครือข่ายเหล่านี้จะทำให้ชาวขอนแก่นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เผยว่า รัฐบาลระบุให้จังหวัดขอนแก่นเป็นสมาร์ทซิตี้ ซึ่งปัจจุบันมีความพร้อมอย่างมากสำหรับการเป็นเมืองอัจฉริยะ โดยได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ นำแนวความคิด เชิงวิชาการ วิจัย ผสานเทคโนโลยีพัฒนานวัตกรรมให้ตอบสนองความต้องการของคนเมือง ช่วยหนุนให้ประชาชนชาวขอนแก่นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จังหวัดขอนแก่นพร้อมนำนวัตกรรมไปเผยแพร่ให้ประชาชน สนับสนุนให้ปรับใช้กับชีวิตในยุคปัจจุบัน เพื่อให้ประชาชนชาวขอนแก่นมีความสุขกับขอนแก่นสมาร์ทซิตี้ กลายเป็นสมาร์ทลิฟวิ่งในที่สุด