มร. สิชัน ซอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินงานเพื่อมอบผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ และลูกค้ารายย่อยอยู่เสมอ โดยในปี 2561 ที่ผ่านมาเรามียอดสินเชื่อรถยนต์เติบโตขึ้น 20.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยปัจจัยแห่งความสำเร็จดังกล่าวมาจากการให้บริการแบบครบวงจร (One-stop Financial Service Solutions) ความหลากหลายของบริการทางการเงินที่ลูกค้าสามารถกำหนดเองได้ การจัดแคมเปญที่น่าสนใจต่างๆ อาทิ การสนับสนุนส่วนลดเงินดาวน์ หรือการนำเสนอดอกเบี้ย 0% สำหรับรถยนต์เฉพาะรุ่น การทำการตลาดแบบดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงกิจกรรมที่จัดร่วมกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เพื่อขอบคุณลูกค้าคนสำคัญอย่างต่อเนื่อง"
"ยอดสินเชื่อรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่งในปีที่ผ่านมา เติบโตขึ้นในเกือบทุกเซกเมนต์ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ซึ่งครอบคลุมทั้งกลุ่มรถยนต์ รถบรรทุก รถโดยสาร และรถตู้" มร. สิชัน กล่าวเพิ่มเติม
มร. ไมเคิล บราวน์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "เราได้เล็งเห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยลูกค้ามีความต้องการในบริการด้านการเดินทางที่สามารถกำหนดเองได้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง ประเทศไทย จึงได้เตรียมวางแผนที่จะเปิดตัวสองธุรกิจใหม่ ได้แก่ การนำเสนอบริการทางการเงินแบบเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกสำหรับลูกค้า นิติบุคคล (full-service leasing) และการให้บริการทางเลือกด้านยานพาหนะแก่ลูกค้า ส่วนบุคคล (Mobility Options) เพื่อตอบรับพฤติกรรมการใช้รถยนต์ที่เปลี่ยนจากการเป็นเจ้าของรถยนต์มาเป็นการใช้รถยนต์ในระยะสั้นมากขึ้น"
"นอกจากเตรียมรุกสองธุรกิจใหม่แล้ว เรายังคงมุ่งเน้นสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าคนสำคัญโดยคำนึงถึงลูกค้าเป็นอันดับแรก (customer centric) ซึ่งนอกจากการจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับทั้งผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ยังได้พัฒนาช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้าไว้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ประกอบด้วยสามรูปแบบ ได้แก่
ช่องทางในแอปพลิเคชัน LINE ในชื่อ @mblt เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจในสินค้า และบริการสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดได้ง่ายขึ้น โดยบริษัทฯ เริ่มเปิดให้บริการในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ระบบ Touchpoint Survey หรือแบบสำรวจความพึงพอใจหลังการเข้าใช้บริการในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งแบบสำรวจดังกล่าวจะถูกนำมาใช้เพื่อวัดความพึงพอใจหลังเข้ารับบริการในช่องทางออนไลน์ได้ในทันที อาทิ โมบิไซต์ (MobiSite) ของเราที่มีชื่อว่า 'myMBFS' โดยลูกค้าสามารถดาวน์โหลดผ่านโทรศัพท์มือถือได้ทั้งระบบ Android และ iOS
แพลตฟอร์มรับความคิดเห็นจากลูกค้า (STAR Community) ที่ลูกค้าจะสามารถแสดงความคิดเห็นที่มีต่อสินค้าและบริการของเราได้โดยไม่ต้องระบุตัวตน
ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับจากการสำรวจมาปรับใช้ในการปรับปรุงบริการ และผลิตภัณฑ์ของเราในอนาคตให้ตรงใจลูกค้าให้มากที่สุด" มร. ไมเคิล กล่าวทิ้งท้าย